Day 8 จันทร์ 23 พ.ย. 58 - โอซาก้า
เช้า - ย่าน Nakazaki-cho
กลางวัน - Tempozan Market Place กินอาหารร้าน Jiyuken - จิยูเคง ข้าวคลุกแกงกะหรี่สไตล์โอ
ซาก้า
บ่าย - พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ไคยูคัง
เย็น - เดินเล่นห้าง Namba Park > แวะร้านหนังสือ > ทานโซบะร้าน Shinobuan ที่ห้าง Namba
Park
วันนี้เราก็คิดว่า เราจะได้ไปเที่ยวแบบปกติไม่มี Event อะไรอีกละ แต่หารู้ไม่ว่า หายนะกำลังจะบังเกิด แต่
กว่าเราจะรู้ตัวก็เล่นเอาตอนจบวันนั้นแหละ เราจะยังไม่เฉลยนะ ติดตามอ่านกันไปเรื่อยๆละกัน เช้านี้ที่แรกที่เราไปคือ ย่านน่ารัก นากาซากิ โช
แผนที่ ย่านน่ารัก นากาซากิ โช
Map :
https://goo.gl/maps/JWbznVbmDxq
พิกัด : 34.708655, 135.503405
รายละเอียด : ร้านย่านนี้จะเปิดช่วง 10.00 - 18.00 น. แต่ถ้าจะให้ดีมาช่วงบ่ายดีกว่า
ที่เรียกว่าย่านน่ารัก เพราะที่นี่เป็นตำบลเล็กๆ ที่ยังไม่ถูกระเบิดทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทำ
ให้แถวนี้มีบ้านเรือนเก่าๆเหลืออยู่ มาเดินย่านนี้ จะได้บรรยากาศย้อนยุค และความ Slow life โดยไม่
ต้องออกจากโอซาก้า
ต่อมา ก็มีพวกอาร์ตทิสมาอยู่ย่านนี้ เลยทำให้ที่นี่กลายเป็นย่านที่มีพวกร้านกาแฟอาร์ตๆ, ร้านขายเสื้อผ้า
แนววินเทจ
Art Gallery หรือร้านขายของแฮนด์เม้ดก็มี ซึ่งถูกใจพี่เก้าและแม่มากๆ เราก็ต้องพามา
แต่เพราะที่นี่เป็นย่านอยู่อาศัย เวลาเดินเที่ยวก็ควรเดินกันเงียบๆ ไม่ส่งเสียงดังนะจ้ะ
แนะนำให้ลองแวะร้านกาแฟ - ขนม, ร้านขายของแฮนด์เม้ดดู
แต่การวางแผนของเรามีความผิดพลาดเกิดขึ้น คือเราจับย่านนากาซากิ โช ไว้ช่วงเช้า ซึ่งส่วนใหญ่ร้านเค้า
จะยังไม่เปิดกัน
มันควรจะจับไปไว้ช่วงบ่ายแทน ทำให้เราได้ภาพร้านแถวย่านนี้ที่ยังปิดอยู่อ่ะ พวกเราเลยมาถ่ายรูปเล่นกัน
แทน ดังนั้นอย่าลืมนะ ใครจะมาแถวนี้
มาบ่าย-เย็นนะจ้ะ
ที่ต่อไปของเราคือ ไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังกัน โดยเราจะใช้บัตร Kaiyu Ticket ที่ซื้อตั้งแต่ที่สนามบิน
มาเป็นบัตรเข้า เราจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาซื้อตั๋วอีก
แต่ก่อนจะไปเที่ยว เราขอแวะเติมอาหารกลางวันกันที่ Tempozan Market Place ชั้น 2 ก่อน ที่นี่จะมีโซน
รวมร้านอาหารเรียกว่า
Naniwa Kuishinbo Yokocho (นานิวะ คุชินโบ โยโกโช) = ตรอกของ
นักกิน ชาวนานิว่า
แผนที่ Naniwa Kuishinbo Yokocho
Map :
https://goo.gl/maps/cpEMvngEZhE2
พิกัด : 34.6556698,135.4296909
รายละเอียด : อยู่ชั้น 2 ใน Tempozan Market Place เปิด 11.00 - 20.00 น. ทุกวัน
เป็นโซนรวมร้านอาหารเก่าแก่ของโอซาก้า อยู่ใน Tempozan
Market Place ข้างในตกแต่งจำลองย่านการค้าเก่าของโอซาก้าประมาณปี 1965 เป็นตรอกเล็กๆ 2 ข้างมี
ร้านอาหารเรียงกันไป โดยเค้าจะเอาเฉพาะอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้ามา เช่น โอโคโนมิยากิ, ทาโกะยากิ
แต่คัดมาแค่ 20 ร้านเด็ดๆ ไว้ที่นี่
ร้านที่เราจะกิน คือ
ร้าน Jiyuken (จิยูเคง) ข้าวคลุกแกงกะหรี่สไตล์โอซาก้า สูตรโบราณปี 1910 จะวางไข่
ดิบไว้บนข้าว
เมนูมีให้เลือกหลายแบบ และเพิ่ม topping ได้ด้วย
ปรากฎว่าสิ่งที่เราสั่ง ดันไม่ใช่ Signature Menu มันเป็นแกงกะหรี่เนื้อ ซึ่งถ้าเป็น Signature เค้ามันจะไม่มี
เนื้อเลย เป็นข้าวแล้วมีไข่วางข้างบน เลยได้แต่มองโต๊ะข้างๆอย่าตาละห้อย จะไปขอถ่ายรูปจานเค้าก็ใช่เรื่อง
เอาวะ เอาเป็นว่ามันก็อร่อยนั่นแหละ แกงกะหรี่เข้มข้น เวลาจะกินก็คลุกไข่ไปกะข้าวได้เลย อร่อยเหาะ
อิ่มแล้วไปกันต่อ เข้าไปใน
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ไคยูคัง กันเถอะ
แผนที่ Osaka Aquarium Kaiyukan
Map :
https://goo.gl/maps/DCvYCB8UFBN2
พิกัด : 34.654609, 135.428965
เว็บไซต์ (มีภาษาไทยด้วยนะ) :
http://www.kaiyukan.com/language/thai/
รายละเอียด : เปิด 9.30 - 20.00 ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 2,300 เยน ผู้สูงอายุ 2,000 เยน
เรามีตั๋ว Osaka Kaiyu Ticket จะสามารถเข้าได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ยังไงก็ต้องไปต่อแถวนะ ไม่ใช่วิ่งเข้าไปเลย
ที่นี่มีทั้งหมด 8 ชั้น แบ่งเป็นโซนต่างๆ และมีโชว์การให้อาหารสัตว์น้ำด้วย ลองไปดูตารางโชว์ในเว็บได้ที่
Link นี้นะ
http://www.kaiyukan.com/language/thai/eattime.html
คอนเซ็ปท์หลักของไคยูคัง เค้ามีแนวคิดว่า พื้นผิวโลกทั้งบนบกและในน้ำ จะมีสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์อาศัยอยู่เสมอ ซึ่งต่างคนต่างก็ทำ
หน้าที่รักษาสมดุลย์ให้กันและกัน ทำให้โลกเป็นโลกที่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้
หากขาดอะไรไปสักอย่างก็จะทำให้กลายเป็นดาวที่ตายแล้ว เช่น ดวงจันทร์ หรือดาวอังคาร และเค้าจะสื่อว่า
คนเราสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้ โดยไม่ไปทำลายมัน
ที่นี่เค้าจะแบ่งพื้นที่แสดงสัตว์น้ำเป็น Zone ตามแผนที่วงแหวนแห่งไฟ
นั่นคือ มหาสมุทรแปซิฟิกที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยๆ พอวาดแผนที่แล้วจะเป็นรูปเกือกม้า มีความยาวพื้นที่รวม 40,000 กม.
เรียกว่า เป็นพื้นที่ที่พร้อมจะเกิดภัยพิบัติได้ทุกเมื่อ ทั้งภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว
และสัตว์ที่มาแสดงที่นี่ ก็เป็นการจำลองให้เห็นว่า สิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบๆแนวภูเขาไฟ ม.แปซิฟิกเป็นยังไง
มาที่นี่ ก็เหมือนมาเรียนรู้ธรรมชาติของพืชและสัตว์ แถมยังได้เห็นความน่ารักของสัตว์หลายๆชนิดเลย
สรุปว่า เราประทับใจที่นี่นะ เพราะมันมีอะไรให้ดูเยอะมาก โดยเฉพาะแท้งก์ใหญ่สุดที่มีฉลามวาฬเป็นพระเอก
จะว่าไปแล้วสามารถนั่งดูได้เป็น ชม.ๆเลยหล่ะ ถ้าใครชอบดูสัตว์น้ำที่นี่ก็คุ้มนะ
พี่ฉิมชอบมาก ตอนที่เค้ามีให้ลูบหัวปลากระเบนด้วย ไม่เคยเห็นที่ไหนให้จับมาก่อน
เรารู้สึกว่า ไคยูคัง เป็นสถานที่ๆส่งแมสเสจบอกคนที่มาเที่ยวที่นี่ ให้รู้จักและรักธรรมชาติและสัตว์ต่างๆ
ก่อนกลับ อย่าลืมแวะถ่ายรูปกับพระเอกของที่นี่ด้วยนะ
ออกจากไคยูคังแล้ว มีสิ่งที่เราสงสัยอยู่อย่างคือ วันนี้คนเยอะม๊ากกกกก อุตส่าห์เลือกมาวันจันทร์แล้วนะ
ทำไมคนมันเยอะขนาดนี้ แล้วชาวญี่ปุ่นเค้าไม่ทำงานกันเร้อะ เราก็ได้แต่เก็บงำความสงสัยเหล่านี้ไว้ในใจ
จนไปจุดหมายต่อไปเป็นข้าวเย็นที่ ร้านข้าวหน้าปลาไหล Honke Shibato (ฮอนเกะ ชิบาโตะ)
เดินไปจนถึงหน้าร้านแล้ว ก็พบแค่ประตูที่ถูกรูดปิดไว้ และมีป้ายกระดาษเล็กๆ เขียนว่า “หยุดวันแรงงาน”
โอ้ววววว ม่ายยยยยยย วันที่ 23 พ.ย. ที่ญี่ปุ่นคือวันแรงงานของชาวญี่ปุ่นนั่นเอ๊งงงงง เหมือนโดนหมัด
สตั๊นท์เข้าไปแบบจังๆ เออเนอะ ดันวางทริปตรงกับวันหยุดแบบนี้ก็เสร็จสิครับ เลยเป็นอีกบทเรียนนึงว่า ถ้า
เป็นไปได้ ก่อนไปลองดูปฏิธินวันหยุดของคนญี่ปุ่นไว้ก่อนดีกว่า เที่ยวให้ไม่ตรงวันหยุดของเค้าเป็นอะไรที่
เที่ยวสะดวกกว่านะเราว่า
ไม่เป็นไรเราเลยเปลี่ยนแผนไปเป็นเดินเล่นห้างNambaParkละกัน
และเราก็ได้ไปเจอร้านโซบะที่อร่อยมากกกกก ชื่อร้าน Shinobuan สาขา Namba Park ชั้น 6
แผนที่ ร้านโซบะ Shinobuan
Map :
https://goo.gl/maps/fhZj5nWx4AM2
พิกัด : 34.661616, 135.501920
รายละเอียด : อยู่ในห้าง Namba Park ชั้น 6
เราก็ไม่รู้หรอกว่าร้านนี้อร่อยรึเปล่า แต่เห็นเค้าขายโซบะ ก็เลยเดินดุ่มๆเข้าไปลองดู
สั่งมาคนละชุดเป็นโซบะเย็น พอชิมเข้าไปนิดนึงแค่นั้นแหละ ก็สั่งมาอีกหลายยยยชุด จนพนักงานที่เค้ามาเสิร์ฟถามว่าคุณชอบโซบะมากๆเลยใช่ไหมเนี่ย ก็แหงหล่ะ เราว่าเส้นโซบะแบบนี้หากินไม่ค่อยได้ที่เมืองไทยนะ มันจะมีความเหนียวนุ่ม หยุ่นๆไม่เละ พอจิ้มจุ่มกับน้ำจิ้มโซบะเย็น ทานเข้าไปแล้วมันอยากจะทานอีกเรื่อยๆๆ
ส่วนอันนี้เป็นชุดที่พี่เบญสั่ง มีอาหารหลายๆอย่าง แต่พอมาชิมโซบะเท่านั้นแหละ เลยต้องสั่งชุดโซบะเพียวๆมาอีกชุดนึงแบ่งกันกินกับพี่เก้า เพราะเส้นมันเหนียวนุ่มมากกก จนอยากกินอีก ตอนนี้ต้องเรียกว่า กิน
เพราะความอร่อยแล้ว
ค่าอาหารมื้อนี้ 4,980 เยน เรียกว่าสั่งกันเยอะมากจนกินไม่ไหวแล้วอ่ะ
พี่ฉิมหน้าเหน้อนี่บ่งบอกความอร่อยมาก.. เพราะยังไม่เคยทานเส้นโซบะเหนียวนุ่มแบบนี้
ขากลับเราได้ขนมห่อๆกลับมาเป็นของฝากจากร้านด้วย ไม่รู้ว่ามันเนื่องในโอกาสอะไรแต่ก็ประทับใจมากๆ
อยากให้คนรักโซบะได้ไปลองชิม พอหลังจากกลับมา มาหาข้อมูลปรากฎว่าร้าน Shinobuan เป็นร้านโซบะที่เปิดมานานกว่า 60 ปีแล้ว เรียกว่าเป็นร้านเก่าแก่ มีสาขาอยู่เยอะเหมือนกัน ก็เป็นอีกความประทับใจนึง
แม้จะเจออีเว้นท์วันแรงงานแต่ได้กินโซบะแสนอร่อย แบบนี้มันก็ฟินแล้วหล่ะ