Day 11 พฤหัส 26 พ.ย. 58 (วันกลับ)
8.00 น. เราก็ Check out จากโรงแรมและเรียกแท็กซี่ไปที่สถานี Tennoji เพื่อไปขึ้น JR Haruka ไปสนาม
บินคันไซ แต่พอดีตั๋วเราเป็น Non Reserved Seat ซึ่งเวลานี้เป็นช่วงที่คนไปสนามบินกันเยอะ เราเลยต้อง
ยืนไปตลอด 53 นาที เราก็ให้แม่นั่งบนกระเป๋าลาก
ก็เป็นอีกประสบการณ์นึงที่เราได้รับจากทริปญี่ปุ่น เราไปถึงสุวรรณภูมิตอน 15.45 และเอาเครื่อง Pocket wifi
ไปคืน ก็เป็นอันจบทริปเที่ยวคันไซทั้งหมด 10 วันของเรา พร้อมกับประสบการณ์ใหม่ๆ และแรงบันดาลใจ
ใหม่ๆ กลับมาด้วย
จบทริปเที่ยวคันไซของเราแล้ว ขอขอบคุณทุกๆคนที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ ที่เขียนมามันเป็นฉบับย่อของย่อ
ของย่อมากๆ จริงๆแล้วเรามีดีเทลที่อยากจะเล่าอีกเยอะแต่มันจะทำให้รีวิวยาวเกินไป ถ้าอยากดูแบบ
ละเอียดก็ไปดูในคลิป Youtube เอาละกันนะ
สรุปข้อผิดพลาด + สิ่งที่เรียนรู้ สำหรับคันไซ
1. การย้ายโรงแรม สำหรับเราเราว่ามันเหนื่อยเหมือนกันนะถ้าเทียบกับให้พักอยู่โอซาก้าแล้วนั่งรถไฟไป
เที่ยวเกียวโตไรงี้น่าจะง่ายกว่า เพราะมันไปเสียแรงตรงแบกกระเป๋าขึ้นลงบันไดสถานีรถไฟฟ้านี่แหละ
2. ร้านดองกี้ ไม่ใช่ว่าจะของดีไปหมด ถ้าจะซื้อแนะนำพวกขนมญี่ปุ่นดีกว่า ถ้าเป็นของใช้บางอย่างก็ไม่ค่อย
เวิร์คเท่าไหร่
3. ก่อนจองตั๋วเครื่องบิน ให้เช็ควันหยุดของญี่ปุ่นให้ดี อย่าไปตรงกับวันหยุดของเค้า เช่น เราไปตรงกับวัน
แรงงานของบ้านเค้าพอดี ร้านอาหารปิด และที่เที่ยวคนเยอะมหาศาลเพราะนอกจากจะกลุ่มนักท่องเที่ยว
แล้วยังบวกครอบครัวชาวญี่ปุ่นเข้าไปอีก ทำให้เที่ยวไม่สนุก
4. ก่อนวางแพลนสถานที่นั้นๆ ให้เช็ควัน + เวลาเปิดปิด ก่อนอันดับแรก เวลาไปถึงจะได้ไม่หงายเงิบแบบเรา
5. เลือกรองเท้าที่ใส่สบายที่สุดในชีวิต เพราะเที่ยวญี่ปุ่นเดินเยอะมากๆๆๆๆๆ
6. ถ้าไปเที่ยวด้วยกันสัก 4 คนขึ้นไป นั่งแท็กซี่ได้ก็นั่งไปเถอะ พอหารๆกันแล้วค่าแท็กซี่ไม่แพงเลย ยิ่งถ้า
ช่วงไหนต้องมีลากกระเป๋าหนักๆ หรือต้องเดินไกลแล้วไม่มีรถไฟฟ้าเข้า แท็กซี่จะช่วยเซฟเวลาและแรงใน
การเดิน + การลากกระเป๋าของเราอย่างมากมาย
7. วางแผนเที่ยวใน 1 วัน อย่าให้มันแน่นมากนัก เพราะมันจะทำให้เราไม่ได้เอ็นจอยกับบรรยากาศ อย่าง
เกียวโตเราว่า เช้าที่นึง บ่ายที่นึง กำลังดี เพราะวัดหรือศาลเจ้าแต่ละที่เค้าสวยมาก และมีที่ให้ถ่ายรูปเยอะ
8. เที่ยวเกียวโต 2 วัน เราว่าไม่พอนะ ถ้ากลับไปแก้ตัวได้อยากได้สัก 4-5 วัน เพราะแต่ละสถานที่มี
บรรยากาศเงียบสงบ ให้เราได้เอ็นจอยกับบรรยากาศได้นานๆ
9. สำหรับคนที่ชอบทานขนมญี่ปุ่นแบบพวกเรา แนะนำให้มี 1 วันที่ไปซื้อขนมญี่ปุ่นมาลองชิม ชอบอันไหน
ก็จำไว้ พอวันกลับจะได้ซื้อแต่ขนมที่เราชอบกลับมา ขนมญี่ปุ่นอร่อยแต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่จะถูกปากเรานี่นา
10. สำหรับคนไปเที่ยวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแบบเรา อย่าประมาทอากาศหนาว เมื่อวานยังอากาศเย็นๆธรรมดา
พออีกวันที่ไปเที่ยว USJ อุณหภูมิลดฮวบเหลือ 9 องศาอย่างเร็ว ทำให้ระหว่างทริปพวกเราหนาวจนไม่
อยากจะเที่ยวกันเลยทีเดียว เพราะประมาทไม่ได้ใส่เสื้อมาหลายๆชั้น เอาติดไปเถอะมันไม่ได้เกะกะอะไรมาก
ดีกว่าไปหนาวยะเยือกที่เที่ยวแล้วมันเที่ยวไม่สนุกเอาซะเลย
แต่ถึงจะหาข้อมูลพร้อมแค่ไหน ก็อย่าคิดว่าตรูจะไม่เจอ Event ใดๆทั้งสิ้นแล้ว ให้เตรียมใจไปรับประสบการณ์หงายเงิบไว้ด้วย เพราะบางทีถึงเราเตรียมตัวดีที่สุดแล้ว มันก็มีผิดพลาดจนได้ เปิดใจรับ Event ซะดีๆ
และหัวเราะใส่มัน จากนั้นก็เก็บมันไว้เป็นประสบการณ์ สิ่งดีเก็บไว้เป็นแรงบันดาลใจ สิ่งไม่ดีให้เรียนรู้ที่จะแก้ครั้งต่อไปนะจ้ะ ขอขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามทริปเที่ยวของไอเลิฟด้วยจ้า ^^