ทริปภูเก็ต 2 วัน ร่วมงานเปิดตัว Sony A7III : Day 1

ทริปนี้ไปวันที่ 16 - 17 มี.ค. 61 ซึ่งเป็นทริปสำหรับสื่อบินไปร่วมงานเปิดตัวกล้อง Sony A7III ที่ภูเก็ต โดยเค้าให้สื่อละ 1 คน คนที่ไปก็จะเป็นพี่ฉิมนี่แหละ แต่ด้วยความที่เบญและพี่เก้าอยากจะตามไปเก็บรูปเก็บ Vlog กัน เลยขอตามไปด้วยการจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินกันเองและก็บินไปด้วยกันเลย ลองไปดูกันว่าพวกเราไปเจออะไรกันบ้าง..

เราได้รับอีเมลเชิญไปงานเปิดตัวกล้อง Sony A7 III จัดที่ภูเก็ต ถึงกับตกใจกันเพราะปกติก็จัดกรุงเทพฯนี่หน่าาา ทำไมคราวนี้ถึงไปจัดภูเก็ตละเนี่ย




แต่การเดินทางมักจะให้อะไรกับเราเสมอ เราก็แพ็คกระเป๋าออกเดินทางกันเลย ทาง Sony นัดเราที่สุวรรณภูมิตอน 6.30 น. พอเช็คอินเรียบร้อยเราก็เข้าไปรอหน้า Gate กันเลยเพื่อจะไม่ต้องวิ่งกันอีก




ก่อนขึ้นเครื่อง ธรรมเนียมในการเดินทางของไอเลิฟก็ต้องแวะเบอร์เกอร์คิงกันก่อนนนน




บินไปภูเก็ตใช้เวลาประมาณ 1 ชม. นิดๆเอง นั่งไปดูหนังยังไม่ทันจบเรื่องก็ถึงละ




นี่เป็นครั้งแรกของพี่บอมบ์และพี่เก้าที่จะไปภูเก็ตด้วยนะ ไม่น่าเชื่อว่าเจ้า 2 คนนี้จะไม่เคยไปภูเก็ต




เครื่องออกตอน 7.45 ก็จะไปถึงภูเก็ตประมาณ 9 โมง




คราวนี้บิน TG จ้าาาาา ไฟล์ทนี้เจอพี่สจ๊วตที่เป็นแฟนๆคลิปพวกเราด้วย ก็มาดูแลพวกเราอย่างดีมากกกก ขึ้นมาก็หลายสายการบินแต่สุดท้ายก็รู้สึกอุ่นใจเวลาขึ้น TG อยู่ดี เพราะมันได้การพูดคุย และดูแลกันแบบไทยๆอะนะ




อันนี้คืออาหารบนเครื่อง เป็น pizza wrap แกงกะหรี่ไก่ ขอน้ำส้มไปด้วย น้ำส้มอร่อยมากกก




สำหรับอาหาร พี่เก้าก็ว่ามันก็ใช้ได้นะ แป้งบาง ไส้เยอะ




ผ่านไปไวเหมือนโกหก เราก็มาโผล่ที่สนามบินภูเก็ตละจ้า




ทางโซนี่ก็เตรียมรถตู้มารอรับพวกเราเรียบร้อย เราได้ขึ้นรถเบอร์ 4




บนรถจะมี Staff จากโซนี่มาด้วย 1 คนคือคุณนก ส่วนอีก 2 คนที่นั่งหน้าเราคือน้าป๋วย และพี่ตาว นายตากล้อง




ส่วนพวกเราก็เป็นเด็กหลังรถ




จากสนามบินวิ่งไป 30 นาทีก็มาถึงร้านตู้กับข้าว

MAP : https://goo.gl/maps/Yc2YJKJ8tDD2 https://goo.gl/maps/Yc2YJKJ8tDD2




ร้านนี้เป็นร้านอาหารสไตล์ไทยวินเทจ มีพวกอาหารไทย อาหารใต้ วันนี้ร้านด้านบนใช้จัดงานเปิดตัว Sony ทั้งชั้นเลย




ส่วนนี้เป็นบาร์เครื่องดื่ม




แต่เราเดินลึกเข้ามาเรื่อยๆ ตามป้ายโซนี่ไปเร้ย




ขึ้นมาชั้น 2 ด้านบนนี้ก็จัดเป็นส่วนของงานเปิดตัวเรียบร้อย




ชนแก้วกันหน่อย ในที่สุดก็ได้มาถึงภูเก็ตโดยสวัสดิภาพ ไม่มีใครเมาเครื่อง เมารถ




คุณโจ้ เป็น Technical Specialist ของทาง Sony เข้ามาทักทาย เค้าเป็นผู้มีความแข็งแกร่งในด้านเทคนิคเป็นอย่างมาก ถามอะไรแกก็ตอบได้หมด




งานเปิดตัวของ Sony A7III เป็นบรรยากาศสบายๆแบบที่เราไม่ค่อยเจอในงานเปิดตัวสินค้าอื่นๆนะ ผู้บริหารระดับสูงของเค้าก็มาจอยกันในทริปนี้ด้วย




พิธีกรก็ดูฮาๆ




หลังจากจบงาน ก็เป็น part ที่พี่เก้ารอคอย นั่นก็คือการชิมของอร่อย




ไม่สิ เป็นการทานอย่างจริงจังมากกว่า




เค้าก็จะแบ่งเป็นโต๊ะๆให้สื่อนั่งรวมๆกันจะได้พูดคุยกันกระหนุงกระหนิง แต่โต๊ะเรา มีแต่พวกเรา ไม่มีใครมานั่งด้วยเรยยยย เค้าอาจจะกลัวว่าจะกินไม่ทันเราก็ได้นะ




แต่สักพักก็มีทีมโซนี่มานั่งด้วย ก็เป็นการคุยไปกินไป แต่กินไปหน่อยนึงก็รู้สึกถึงความอร่อย อาหารที่นี่รสชาติโอเคมาก แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร อย่างในภาพนี้อร่อยมาก เป็นใบอะไรสักอย่างผัดกับไข่




ส่วนอันนี้คืออร่อยมาก เป็นแกงปู ใส่ใบอะไรสักอย่างเหมือนจานเมื่อกี้ละมั้ง รสชาติมันเข้มข้นกำลังดี เนื้อปูเยอะมาก ประทับใจร้านนี้สุดๆ




พอเสร็จจากการกิน พวกเราก็ไปเข้าแถวรับถุงยังชีพกัน มันเป็นถุงกันน้ำ ในนี้จะมีเสื้อ หมวก ครีมกันแดด ผ้าขนหนู เรากะว่าจะใส่กล้องไว้ในนี้แหละเผื่อน้ำทะเลกระเด็นมาโดนจะได้ไม่เป็นไร




สุดท้ายคือมารับกล้อง Sony A7III + Kit 28-70 F3.5 - 5.6 และเลือกเลนส์พิเศษไปทดสอบระหว่างทริป มีเลนส์ให้เลือกเยอะแยะเลย ทายกันสิว่าพี่ฉิมจะหยิบตัวไหน?




แตร๊นนนน พี่ฉิมรับมาเรียบร้อย เลนส์ที่พี่ฉิมเลือกมาคือ 85 F1.4 GM จิงๆพี่เก้าก็ทายไว้อยู่แล้วหล่ะว่าพี่แกน่าจะหยิบ 85 มา ก็เอามาจริงๆ และทาง Sony ก็ให้เมม SDHC UHS-II มีความเร็วในการอ่าน 300 MB/วิ เป็นเมมที่เร็วสุดแล้ว ณ ตอนนี้ที่ Sony ขายอยู่ เหมาะกะพวกงานที่ซีเรียสๆ เค้าต้องการให้เทสกันให้เต็มที่กันเลย




ได้เวลาออกเดินทางไปทดสอบเจ้า A7III กันซะที




ช่วงบ่ายพวกเราก็นั่งรถไปที่อ่าวปอ Grand Marina เพื่อไปขึ้นเรือไปเกาะรังใหญ่กัน




พี่ฉิมนี่ดูเป็นมนุษย์ Sony มาก มีแต่ Sony แปะเต็มตัวเลย




พี่เก้าผู้จะกลับสู่มาตุภูมิ ก็เตรียมตัวมาอย่างดี วันนี้มีหมวกมาด้วย




เดินอ้อมตึกมาสักพักก็เจอทะเลสีฟ้าๆเลย




วิวสวยมากกก พี่เก้าก็ถ่าย Vlog เก็บไว้ด้วย ส่วนจะตัดเมื่อไหร่เนี่ย ก็แล้วแต่อารมณ์ศิลปินของพี่แก




เราก็เดินตามๆกันไปขึ้นเรือ อยากจะบอกว่าแดดมันร้อน ไม่ใช่ร้อนธรรมดา ร้อนแสบๆๆๆด้วย




ที่นี่มันมีเรือสวยๆจอดเต็มไปหมดเลย




บรรยากาศดีมากอ่ะ เหมือนท่าเรือในหนังเลย




เดินตรงมาก็มีบาร์เครื่องดื่มด้วย




ถึงทางลาด พี่เก้าก็พยายามทรงตัวให้ดี ไม่ให้กลิ้งไปข้างหน้า




เรารู้สึกชอบท่าเรือนี้มาก น้ำทะเลมันสะอาดและใสขนาดมีปลาว่ายอยู่ใกล้ๆทางเดินเลยหล่ะ




มันไม่มีขยะสักชิ้นเลย แสดงว่าเค้าต้องดูแลอย่างดีแน่ๆ




มีเรือหลายๆแบบเลยนะ เรือแบบที่ต้องกางใบเรือก็มี




แต่เรือที่เราจะนั่งไปจะคล้ายๆแบบนี้ เห็นเค้าบอกว่ามันเป็นเรือยอชต์




พอขึ้นเรือได้ เราก็รีบผลุบเข้าไปในห้องแอร์เลยเพราะทางเดินที่จะมาขึ้นเรือเนี่ยร้อนมาก พอขึ้นเรือปั๊บ เค้ายังไม่ออกเรือเลย เรือโคลง พี่เก้าจึงเกิดอาการเช่นนี้




ส่วนพี่ฉิม สนใจในเรื่องเครื่องดื่มว่ามีอะไรบ้าง




สุดท้ายฮีก็ติดอยู่ตรงบาร์น้ำสักพักเลย กว่าจะขึ้นไปข้างเรือกัน




สักแป้บเราก็ขึ้นมาด้านหน้าเรือ มารับลมกันดีกว่า อุตส่าห์ได้มาทะเลทั้งที จะมานั่งแต่ในห้องแอร์มันก็น่าเบื่อน๊าาา




คุณโจ้ ตอนนี้พร้อมลงทะเลเต็มที่




คุณโจ้ก็มาเล่าให้ฟังเรื่องตอนที่แกไปออกทริปถ่ายรูปให้พวกเราฟัง มันก็เป็นประสบการณ์ใหม่ๆที่เราไม่เคยรู้มาก่อน




นั่งเรือไปสักพัก พวกก็เริ่มถ่ายรูปเล่นกันหล่ะ




เลียนแบบไททานิคมั่ง ไม่รู้ว่าคู่นี้จะได้ลงเอยกันรึป่าวนะ




ร้อนมั้ยลวกกกกก




รวมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ Sony ทุกคนดูครื้นเครงกันมาก เราได้รับการดูแลอย่างดีมากจากทาง Staff ทุกคนเลย




ใกล้จะถึงเกาะแล้ว ได้ข่าวว่าเราต้องลงเรือเล็กไปขึ้นเกาะ เราต้องเปียกน้ำนิดหน่อย




พี่เก้าบอกไม่กลัวอยู่แล้ว แต่ถ้าจะล้มเนี่ยช่วยรับด้วยละกัน




นี่คือหน้าตาเรือที่เรานั่งเข้าฝั่ง




มาถึงเกาะรังใหญ่ละจ้า เกาะนี้นักท่องเที่ยวก็ไม่ได้เยอะมาก มีบาร์ขายน้ำขายอาหาร ไม่อนุญาตให้เอาอาหารขึ้นมาบนเกาะ




ถึงแล้ว พี่เก้ารอดจากการลงเรือมาได้โดยไม่คว่ำ เย้ๆ




กิจกรรมที่นี่คือมาเทสกล้องด้วยการถ่ายนางแบบฝรั่งที่ทางโซนี่จัดไว้




แต่แดดประมาณนี้ ขืนออกไปถ่ายรูปน่าจะไม่รอดถึงวันสุดท้ายแหงๆ




ดังนั้นก็ปล่อยพี่ฉิมเทสกล้องไป พวกเราก็เป็นฝ่ายศูนย์หน้าผ้าเย็น คอยเตรียมน้ำให้ละกันนะ อิอิ




เราก็นั่งดูวิวไปเรื่อยเปื่อย ก็รู้สึกว่าเกาะนี้เหมาะกะการเล่นน้ำมาก แต่ไม่น่าจะเหมาะกะการถ่ายทะเล เพราะมันไม่มีโขดหินเลย




พอสัก 5 โมงเย็นเค้าก็เรียกกลับกันหล่ะ ขากลับเราได้นั่งเรือดิงกี้ เป็นเรือยางที่นั่งกันคนละฝั่งอ่ะ มันมันส์มากเลย เสียวตกน้ำมาก ไม่ได้เก็บรูปมาเพราะปล่อยมือจับไม่ได้เลย




คราวนี้เปลี่ยนที่นั่งไปนั่งบนดาดฟ้าเรือบ้าง แดดเริ่มไม่ร้อนหล่ะ ลมพัดเย็นสบาย




พอจะถ่ายรูปพี่เก้า ก็มีตัวแย่งซีนข้างหลัง เห้อออ




ถ่ายรูปคู่กับเกาะ




ขากลับเราจะได้บรรยกาศพระอาทิตย์ตกบนเรือด้วยนะ




18.30 น. ฟ้าเริ่มสวย มีแสงส้มๆกระทบเมฆด้วยเหมือนเกาะในพวกหนังการ์ตูน Pixar เลย




ชอบบรรยากาศแบบนี้มาก




ท้องฟ้ามันจะมีทั้งสีม่วง ส้ม น้ำเงิน ฟ้า แซมๆสลับๆกันไป




ถ้าได้มาเห็นบรรยากาศจริงๆมันจะสวยกว่านี้มาก




พี่เก้าก็หยิบกล้องพี่ฉิมมาเก็บภาพด้วย ส่วนพี่ฉิมสลบเหมือด น่าจะเป็นผลจากการโดนเผาตอนอยู่บนเกาะ




ให้ดูบรรยากาศบนดาดฟ้าเรือ ทุกคนดูแฮปปี้กับการเก็บภาพ




จริงๆมาด้วยกันแบบนี้ก็เหมือนมาเที่ยวเลยนะนี่




ใกล้ถึงท่าเรือแล้ว ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน




พี่เก้าบอกว่า บรรยากาศเรือจอดกันเยอะๆแบบนี้เหมือนที่ซัน มูน เลค ที่ไต้หวันเลย




เราว่าก็มีความคล้ายนะ แต่ที่นี่มันจะเป็นท่าเรือที่มีความโมเดิร์นกว่าเยอะๆ




กลับถึงฝั่งโดยสวัสดิภาพ




พี่ฉิมตื่นแล้ว ได้เวลาไปขึ้นรถกันหล่ะ




นี่คือหน้าตาเจ้าเรือที่เรานั่งไปเมื่อกี้ พอเค้าเปิดไฟแบบนี้แล้วมันสวยจังเลยอ่ะ นับว่าเป็นครั้งแรกที่เราได้ขึ้นเรือแบบนี้เลยนะ รู้สึกประทับใจ




ระหว่างเดินกลับ คุณโจ้ก็นัดแนะกับพี่ฉิมเรื่องเวลา เพราะคืนนี้มีนัดว่าจะไปถ่ายดาวกัน




จากนั้นพวกเราก็นั่งรถตู้ไป Check in กันที่โรงแรม Pullman Phuket Panwa Beach Resort




ถึงโรงแรมกันแล้ววว เราก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปเก็บของที่ห้องพักกัน และนัดเจอกันที่ห้องอาหาร Aqua




คืนนี้เป็น Buffet Seafood จ้า




จะว่าไปก็มีความหิวพอสมควรเลยนะเนี่ย




กิจกรรมสุดท้ายของ Sony คือการถ่ายนางแบบในธีม Victoria Secret เราก็ถ่ายมาได้แค่นี้ละนะ ไม่สามารถจะมุดเข้าไปได้




ถ่ายอันนี้ดีกว่า อันนี้เป็นเมนูพิเศษคือ กุ้งล็อบสเตอร์ เนื้อมันนุ่มและมีรสชาติมาก อร่อยเลยหล่ะ และก็เป็นการปิดกิจกรรมกับทางโซนี่ในวันแรก




5 ทุ่มแล้วววว คืนนี้ต้องรีบนอนเพราะจะมีทริปไปถ่ายดาวกัน นัดพร้อมกันตี 3 ครึ่ง คงต้องตื่นตี 3 แต่เด๋วเก็บภาพห้องนอนให้ดูก่อน




เป็นห้องที่กว้างขวาง อยู่สบายมาก




ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำแยกกัน มีโต๊ะแต่งหน้าอยู่ข้างนอก ถือว่าดีงาม เดี๋ยววันถัดไปจะเก็บรูปหน้าระเบียงมาให้ดูกันนะ วันนี้ก็ปิด Day 1 กันแค่นี้ รอติดตาม Day 2 กันต่อนะจ้ะ ^^