การเดินทางเข้าเมือง ถ้ายังไม่รู้ว่าจะใช้รถไฟอะไรเราก็ให้ Google Map แนะนำวิธีให้ เรารู้แต่ว่าเราต้องการไปเริ่มเที่ยวที่เกียวโต เราก็ใส่เข้าไปใน Google Map เลยว่าเริ่มต้นทางจาก Kansai Airport และไปลงที่ Kyoto Station
ซึ่ง Google ก็ Suggest วิธีให้เราตามนี้
จากภาพ วิธีที่เร็วสุดคือนั่ง JR Haruka ใช้เวลา 1 ชม. 18 นาที ราคา 3,570 เยน เราเลยเลือกนั่ง JR Haruka (เจอาร์ ฮารุกะ)นะ
และอีกอย่างเราก็ไปอ่านหนังสือท่องเที่ยวประกอบด้วย เขาบอกว่า
JR Haruka จะวิ่งไป-กลับระหว่างสนามบินคันไซ - เกียวโต โดยแวะจอดระหว่างทางแค่ 2 สถานี คือที่โอซาก้า สถานี Tennoji และ Shin-Osaka เท่านั้น และไปสุดสายที่สถานี Kyoto (ให้ดูที่เส้นสีน้ำเงินนะ)
(ภาพจาก : www.westjr.co.jp)
จากตารางเวลารถไฟในภาพ เราจะใช้เวลาจาก Kansai airport ไปถึงสถานี Tennoji (เทนโนจิ) 30 นาที และไปถึง Shin-Osaka (ชินโอซาก้า) ใน 50 นาที ด้วยการนั่ง Haruka ดังนั้น ใครที่พักโอซาก้าและอยู่ใกล้ 2 สถานีนี้ นั่ง Haruka จะสะดวกและเร็วมากเพราะเขาวิ่งยาวเลย
ส่วนเกียวโต ก็ใช้เวลา 1 ชม. 15 นาที
(ภาพจาก : www.westjr.co.jp)
แต่สำหรับคนที่ไม่ได้มาเส้นทางแบบเรา ก็ลองดูว่าตัวเองจะเริ่มทริปที่ไหน และมาดูว่าใช้สายไหนได้บ้าง + อ่านหนังสือเที่ยว + ดู google map คู่กันไปด้วย มันทำให้เราได้เส้นทางที่เหมาะกะการเดินทางของเรามากสุด
พอเรารู้แล้วว่าต้องนั่ง Haruka เข้าเกียวโต เราก็มาดูว่าซื้อบัตรที่ไหนยังไง จากการอ่านข้อมูลในเว็บ westjr.co.jp ก็เลยรู้ว่าเขามีขายเป็น Package ตั๋ว Haruka + บัตรเติมเงิน ICOCA
Package นี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง..
มีให้เลือก 2 แบบคือ
one-way trip
ราคา 3,030 เยน หรือ
round trip
ราคา 4,060 เยน
ซึ่งอันนี้เป็นราคาของปี 2015 นะ สามารถเข้าไปอัพเดทราคาบัตรกันได้ที่ Link นี้
http://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/icoca-haruka/
ICOCA+Haruka one-way trip ราคา 3,030 เยน ในราคานี้เราจะได้
1. บัตร ICOCA โดยมีเงินที่เราใช้ได้คือ 1,500 เยน และอีก 500 เยนเป็นค่ามัดจำบัตร ซึ่งราคานี้เป็นราคาปกติที่เราซื้อทั่วๆไปตามที่ขายบัตร ICOCA แหละ แต่ที่น่าสนสุดๆคือ ข้อ 2
2. ได้บัตรนั่ง Haruka ตกเที่ยวละ 1,030 เยนเท่านั้น ซึ่งตั๋ว Haruka ปกติราคาปกติ จากสนามบินคันไซไปเกียวโต ราคาอยู่ที่ 3,370 เยนเลยนะ แต่สำหรับบัตรนี้ เราจะนั่งได้เฉพาะตู้ที่ non reserved seat เท่านั้น
อันนี้คือหน้าตา Package
(ภาพจาก : www.westjr.co.jp)
แนะนำให้จองผ่านหน้าเว็บก่อน ซื้อล่วงหน้าได้ 2 - 27 วัน สามารถเข้าไปจองได้ที่ link นี้ค่ะ
http://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/icoca-haruka/
คนที่จะซื้อ package ICOCA+HARUKA สามารถจองไปก่อนแล้วไปรับบัตรที่สนามบิน JR west office ได้เลย
ให้ปริ๊น Email ใบจอง + passport ตัวจริง
ยื่นให้เจ้าหน้าที่ที่เค้าท์เตอร์ JR Office ที่ชั้น 2 ส่วนใครที่ไปซื้อที่สนามบิน เราอ่านในเว็บเขาบอกว่าไปซื้อที่นู่นเลยก็ได้นะ แต่เพื่อความชัวร์ว่าได้ไปแน่ๆ เราเลยขอจองไปก่อนละกัน
แต่สำหรับใครที่มีบัตร ICOCA อยู่แล้วและอยากซื้อ Package Haruka ที่เป็นราคาลด ก็ทำได้ด้วยการแค่แสดงบัตร ICOCA ที่ JR Counter ตอนไปซื้อ ก็จะได้ตั๋ว Haruka ในราคา Package นะ
สรุป เราเลือก JR Harunka แพ็คเกจแบบ Round Trip ได้บัตร ICOCA คือบัตรที่เป็นรูป Kitty ส่วนบัตรด้านล่างคือตั๋ว JR Haruka ถ้าซื้อแบบ Round Trip เราก็จะได้ตั๋วขาไปและขากลับมาพร้อมกันเลย ให้เก็บตั๋วขากลับให้ดีอย่าให้หายนะ
เล่าเรื่องบัตร ICOCA ให้ฟังเล็กน้อย เจ้าบัตร ICOCA อันนี้เป็น smart card หรือบัตรเติมเงินออกโดย JR West เอาไว้ใช้ติ๊ดขึ้นรถไฟ JR, รถไฟฟ้าใต้ดิน และซื้อของใน minimart โดยไม่ต้องใช้เงินสด เหมือนบัตร T-Money ในเกาหลี หรือบัตร Suica ที่ใช้ในโตเกียว โดยไม่มีส่วนลดใดๆทั้งสิ้น เน้นเอาความสะดวก ทำให้เราไม่ต้องคอยกังวลว่าจะต้องกดซื้อตั๋วราคาเท่าไหร่ หรือไม่ต้องหยอดเหรียญกดซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ ใช้บัตรนี้ติ๊ดเข้าติ๊ดออกรถไฟฟ้าได้เลย บัตรก็จะถูกตัดเงินไปตามระยะทางที่ขึ้น
การเติมเงินบัตร ICOCA
• เติมที่ตู้ตามสถานีรถไฟฟ้าก็ได้ หรือเติมที่ร้านสะดวกซื้อก็ได้ จำนวนเงินที่เติมตั้งแต่ 1,000 เยน 2,000 เยน 3,000 เยน 4,000 เยน 5,000 เยน หรือ 10,000 เยน บัตรนี้เก็บเงินได้มากสุด 20,000 เยนนะ
ตอนคืนบัตร
• ไปคืนที่สนามบินหรือตามสถานี JR ก็ได้
• พอตอนไปคืนเขาจะคืนจำนวนเงินที่เหลือ + ค่ามัดจำ 500 เยน - ค่าธรรมเนียมบัตร 220 เยน เช่น เหลือเงินในบัตร 1000 บาท เอาไปคืน เขาจะคืนเงินให้เราทั้งหมด 1,280 เยน เพราะเค้าคิด 1,000 + 500 - 220 = 1,280 เยน
อายุบัตร
บัตรมีอายุ 10 ปี จะเก็บไว้แล้วเอามาใช้ใหม่ก็ได้นะ แต่แนะนำให้คืน เพราะมาคราวหน้า ก็มาซื้อ package ICOCA+HARUKA ใหม่ก็ได้ หรือจะเก็บเป็นที่ระลึกก็ได้แล้วแต่ เพราะบัตรมันน่ารัก และอีกอย่าง ปี 2016 ทาง JR เขาประกาศแล้วว่า สามารถใช้บัตร Smart Card นี้ได้ทั่วทุกภูมิภาคในญี่ปุ่นแล้ว ดังนั้น ถ้าเรามีแพลนว่าจะมาญี่ปุ่นอีก ก็เก็บไว้ใช้ต่อได้เลยไม่ต้องแลกคืน
พอมาถึงสนามบินคันไซแล้ว ให้ขึ้นไปชั้น 2 หาป้ายไป JR Office นะ ถ้าไปไม่ถูกก็ถาม Information ได้ เค้าพูดภาษาอังกฤษได้
ใน JR Office เราก็ต่อแถวเข้าไป ให้เตรียม Email ใบจอง + passport ของทุกคนเลยนะ ยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู เราซื้อแบบ Round Trip เขาจะถามว่าเรากลับวันไหน เราก็แจ้งไป
พอได้ตั๋วแล้วก็ไปรอรถกัน ให้ดูป้ายว่า เราต้องไปรอที่ Platform ไหน อันนี้คือวิธีอ่านป้ายรถไฟ
แต่สิ่งที่เราเจอคือเยี่ยงนี้ เป็นภาษาญี่ปุ่นอ่ะ ตู้ที่เราขึ้นได้คือตู้ 4-6 นะ เพราะเป็นตู้สำหรับ Non -reserved seat
แต่เรารู้ว่าต้องรอที่ Platform และเวลาอะไรเพราะเจ้าหน้าที่แจ้งมาเรียบร้อย
เค้าจะมีที่วางกระเป๋าไว้ตรงประตูทางเข้า ทำให้สะดวกไม่ต้องลากเข้ามาเกะกะด้านใน และนี่คือสภาพภายในเจ้า Haruka เดี๋ยวเราจะนั่งไปอีก 1 ชม. เพื่อไปลงที่สถานีเกียวโต
ที่นั่งเป็นแบบ 2-2 เบาะนุ่ม กว้างสบายมาก
ให้เก็บตั๋วไว้ก่อนนะ เพราะบางทีก็มีเจ้าหน้าที่มาเดินตรวจตั๋ว
นั่งยาวๆ ดูวิวกันไป 1 ชม. การเดินทางครั้งใหม่ของเรากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ผ่านไป 1 ชม. 15 เจอาร์ ฮารุกะก็พาเรามาถึงสถานีเกียวโตเรียบร้อยจ้าาา สำหรับเรารู้สึกว่าการนั่งฮารุกะเป็นวิธีที่ง่ายและเร็วสุดๆ ถ้าใครเดินทางแบบเราก็ไปลองกันได้นะจ้ะ