เลนส์มุมกว้าง Canon EF-S 10-22MM F/3.5-4.5 USM เลนส์ Wide
เก้าคิดว่า อีกหนึ่งความเพลิดเพลินของนักถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่นก็ตาม ก็คือการที่ได้ใช้คาแร็คเตอร์ของเลนส์มุมกว้างสร้างสรรค์ภาพในรูปแบบต่างๆ เพราะมุมมองของเลนส์ตัวนี้ เราไม่ได้เห็นกันทั่วไปในชีวิตประจำวัน ชักจะน่าสนใจมั้ยละคะ
เช็คข้อมูล spec และราคาเลนส์ได้ที่นี่ต่ะ
https://www.ilovetogo.com/shop/lens/canon/ef-s-10-22-usm
เลนส์ที่จะมาแนะนำกันในวันนี้คือเลนส์ Wide สำหรับกล้องตัวคูณ ของ Canon นั่นคือ Canon EF-S 10-22mm F3.5-4.5 USM เลนส์สุดรักของเรานั่นเอง
หน้าตาของเลนส์มันก็ประมาณนี้ หล่อเหลาเอาการเลยนะ
Build Quality
มีน้ำหนัก 385 กรัม ถือว่าหนักไหม ถ้าสำหรับมือใหม่อาจจะรู้สึกหนักกว่าเลนส์ kit 18-55 หรือ เลนส์ 50f1.8 เพราะตัวเลนส์ทำจากวัสดุที่ดูแข็งแรงทนทานกว่า แต่ถ้าใช้ไปนานๆ เลนส์ตัวนี้ก็ไม่ได้หนักเท่าไรเลย
หน้าตาหล่อไหม
ถึงจะสู้พี่โดม ปกอลั่มไม่ได้ แต่เวลาติดกับกล้องแล้วก็หล่อไม่แพ้ นาวิน ต้าร์ เลยทีเดียว พอติดเข้ากับ 600D ของเราก็ดูดี ดูโอเค ดู balance ใช้ได้นะ
ใช้ได้กับกล้องตัวคูณเท่านั้น
อย่าลืมว่า เลนส์ตัวนี้ใช้ได้กับ "กล้องตัวคูณ" เท่านั้นนะ ใครมี 5D mark 1,2,3 ใช้ไม่ได้นะคะ
สังเกตุเลนส์ที่ใช้กับกล้องตัวคูณได้ง่ายๆ คือมันจะเป็นรหัส
EFS (ถ้าใช้กับกล้องทั้งตัวคูณและ full frame ได้ จะเป็นรหัส
EF เฉยๆ)
เลนส์ตัวนี้โฟกัสเร็วและเงียบ เพราะว่ามี
Ultra Sonic Mortor ซึ่งถ้าใครเคยใช้ kit 18-55 หรือ 50 F1.8 จะรู้สึกได้เต็มๆเลยว่า ultra sonic mortor มันโฟกัสได้เร็วและเงียบขนาดไหน
เลนส์ระดับนี้ก็ให้ Distance Scale มาด้วย ใครเคยใช้ยกมือขึ้น...... เงียบ....
มี Full Time Manual Focusing
มันคืออะไร? มันก็การที่เราปรับเลนส์เป็นโหมด Auto Focus (AF) อยู่แล้วยังสามารถหมุนหา Focus ได้เอง โดยไม่ต้องปรับเลนส์ให้เป็นโหมด Manual Focus (MF)
แล้วใช้ยังไง?
สมุติว่าเราจะถ่ายแก้วกาแฟด้านหน้าแต่ดันไปโฟกัสโดนแก้วหลัง
แม้ว่าเราจะอยู่ในโหมด Auto Focus (AF) เราก็สามารถหมุน Focal Ring เพื่อโฟกัสแบบ manual ด้วยมือของเราเองได้ค่ะ
หมุนจนเจอโดยไม่ต้องเปลี่ยนโหมดไปปรับเป็น MF ที่เลนส์
ถามว่าสะดวกไหม ถ้ากรณีถ่ายอะไรตอนกลางคืน แล้วกล้องโฟกัสอัตโนมัติไม่ได้ บางทีเราก็ต้อง manual focus เองบ้าง ดังนั้นการที่ไม่ต้องเสียเวลาปรับ MF ที่เลนส์ก็ถือว่าสะดวกใช้ได้เลย
จากการหมุนโฟกัสเอง ก็ได้ภาพคมชัดประมาณนี้ค่ะ
ระยะโฟกัสใกล้สุด 0.24 เมตร
ใกล้มากจริงๆ ขอบอก ยิ่งเลนส์มันยาวๆ ด้วยแล้วเนี่ยนะ ยิ่งรู้สึกว่ามันเข้าใกล้แบบได้ม๊ากกกก มากกกกก จากภาพจะเห็นว่า เข้าใกล้แบบได้ถึงขนาดนี้เลย เห็นปะ เลนส์เกือบจะไปชนกับหน้าอยู่แล้ว
จ่อใกล้ขนาดนี้ก็ยังโฟกัสได้ (แต่หน้าคนจะเป็นอะไรนี่อีกเรื่องนะ)
สำหรับคนที่อยากรู้ว่า 0.24 เมตรวัดจากตรงไหน มันไม่ได้วัดจากปากกระบอกเลนส์นะคะ มันวัดจาก Focal Plane Position ที่เป็นสัญลักษณ์กลมๆ แล้วขีดทับแบบนี้
ระยะซูมไม่มาก
แค่ 10 - 22 เท่านั้น มันนิดเดียวเนอะ อาจจะมีคนถามว่า แล้วซูมได้แค่นี้มันมีประโยชน์หรือป่าว? ตอบเลยว่า มีประโยชน์มากๆ คือ ที่ระยะ 22 มันไม่ถึงกับ normal ก็จริง แต่มันก็โอเคเกือบๆ normal แล้วระดับนึง ลองดูภาพด้านล่างค่ะ
ถ่ายที่
10mm จะเห็นว่าส่วนที่อยู่ขอบๆ เลนส์จะดูยืดๆ โดยเฉพาะถ้าพุงอยู่แถวนั้นด้วยแล้วเนี่ย จะดูพุงยื่นมากๆ และจากภาพ แขนจะถูกยืดผิดสัดส่วนพอสมควร
แต่พอบิดกลับมาที่
22mm จะเห็นได้ว่า ภาพดูเกือบจะ normal แล้ว แทบจะได้สัดส่วนที่เป็นปกติเลย ดังนั้น ระยะซูมนิดๆ หน่อยๆ ของมันก็มีผลที่ชัดเจนกับสไตล์ภาพที่ได้ ถ้าเกิดถึงสถานการณ์ที่ไม่มีเวลาเปลี่ยนเลนส์ เราก็สามารถใช้เลนส์ตัวนี้ถ่ายได้ทั้ง Wide และ Normal เลยหละ
ลักษณะของไฟแฉกๆ ที่ได้
ซื้อ 10-22 มาก็ต้องเอามาถ่าย Land ถ่าย City Scape ใช่ไหมคะ? อะแน่นอน ถ้ามาถ่าย City โดยเฉพาะตอนกลางคืน คงอยากเห็นแฉกเวลาเปิด F แคบๆ ใช่ไหม
บางคนตั้งความหวังไว้ว่าจะได้แฉกสวยๆ แฉกๆ แต่สำหรับเลนส์ตัวนี้ คุณคงต้องผิดหวัง เพราะแฉกมันออกบานๆ ไม่ค่อยสวยเท่าไร เว้นซะแต่ว่าใครชอบแฉกสไตล์นี้ ก็สมใจคุณละค่ะ
ลักษณะโบเค่ที่ได้ (Bokeh)
เลนส์ 10-22 จะถ่ายให้ได้โบเก้ก็ยากนิดหน่อย เพราะการถ่ายที่ระยะโฟกัสน้อยๆ (เช่น 10mm) มันจะทำให้ภาพมีความชัดลึกสูง ดังนั้นถ้าอยากจะถ่ายให้เห็นโบเก้ จะต้องให้แบบเข้าใกล้กล้องมากหน่อย แล้วฉากหลังไกลๆ มันจะเป็นโบเก้ไปเอง (
อ่านเพิ่มเติมเรื่องชัดลึกชัเตื้นได้ที่นี่)
ได้โบเก้หน้าตาแบบนี้ ดูออกกลมๆ ก็ถือว่าสวยใช้ได้
การเกิดแฟลร์ (Flare)
แฟลร์หละ เป็นยังไงบ้าง เยอะไหม?
ถ้าถ่ายโดยส่องดวงอาทิตย์ตรงๆเลย จะเห็นแฟลร์เม็ดเล็กๆ ประมาณนี้ค่ะ
ถ้าเบี่ยงๆ ออกไป แฟลร์ก็จะลดปริมาณลง ถามว่าใช้ได้ไหม ก็คิดว่าโอเคนะสำหรับแฟลร์ประมาณขนาดนี้
ใช้ถ่ายวีดีโอได้ดี
ใช้ถือถ่ายวีดีโอได้ด้วย ถึงจะเป็นเลนส์ที่ไม่ได้มี IS หรือ กันสั่น เพราะทางยาวโฟกัสสั้น (ถ่ายที่ 10mm) ทำให้ภาพดูไม่ค่อยสั่นไหว แต่เวลาเดินก็ต้องเดินแบบให้นิ่งๆนิดนึงด้วยนะคะ
สร้างสรรค์มุมในมุมมองที่แตกต่างได้ดีด้วยคาแร็คเตอร์ความ Wide
จุดเด่นอีกอย่างของเลนส์ตัวนี้ก็คือ สามารถถ่ายสไตล์ภาพ Creative แปลกๆ ได้ด้วย เช่น การเอาไปจ่อใกล้ๆ ก็จะได้ภาพประมาณนี้
ใครที่ซื้อเลนส์ตัวนี้ไปเล่น ยังไงก็ต้องถ่ายมุมแบบนี้เล่นกันแน่นอน ซึ่งมันก็สร้างเสียงเฮฮากันในกลุ่มได้เสมอ อิอิ เก้าชอบมันมากๆ ก็ตรงนี้อ่ะ ได้มุมมองแปลกใหม่ดีค่ะ
นอกจากจะทำให้หน้าใหญ่แล้ว ยังทำให้ขาดูยาวๆ เท่ๆ ได้อีกด้วย อันนี้ยิ่งชอบหนัก จากขาใหญ่ๆ ก็ดูเรียวยาวได้ในทันใด ไม่ต้องทำศัลยกรรม คริคริ ^o^
เล็งมุมกันดีๆ ใช้ Character ของเลนส์ให้เป็นประโยชน์ แล้วก็ Creative กันไป
หรือจะถ่ายแบบระยะกลางๆ เอาแบบไว้ด้านขวาๆ ให้เบี้ยวนิดๆ ก็ได้
ได้ประมาณนี้ ใช้ความเบี้ยวให้เป็นประโยชน์ในการ Creative
หรือ มีคนบางคนที่สามารถจะหล่อได้ด้วยเลนส์ Wide ก็มีนะ โดยการเอาเลนส์ไปจ่อหน้าใกล้ๆ แบบน้าเล็กของเรา เป็นไง หล่อปะ!
ใช้ถ่ายภาพในมุมมองปกติก็ได้ แต่ต้องจัดวางองศากล้องให้ดี
แต่ถ้าใครจะเอาเลนส์ 10-22 ไปถ่ายสถาปัตยกรรม บางทีก็ไม่อยากได้ความบิดเบี้ยวของมัน จะทำยังไง?
ความบิดเบี้ยวเกิดขึ้นจากอะไร?
เกิดจากการที่เราทำเล็นเฉียงๆ หรือเสยเลนส์ขึ้นแบบนี้ ก็เลยทำให้ภาพดูบิดเบี้ยว ลู่ขึ้น ลู่ลง
วิธีแก้คือ ต้องตั้งกล้องให้ตรง ถ้าใครติดกล้องกับขาตั้งกล้องที่มีระดับน้ำ ก็สามารถเช็คระบาบของกล้องได้จากตัวระดับน้ำ ให้มันอยู่ตรงกลาง เวลาถ่ายก็จะไม่ดูบิดเบี้ยว
หรือใช้วิธีการเล็งเอาเอง โดยกะให้เส้นเสาตั้งตรงขนานกับขอบซ้ายขวาของภาพก็ได้
อาจจะไม่ได้ถืง 100% แต่ก็ลดอาการบิดเบี้ยวลงได้บ้าง เวลามาดัดกลับใน Photoshop ก็จะเสียเนื้อภาพน้อยลงค่ะ
วิธีดัดภาพที่เกิดการบิดเบี้ยวจากเลนส์ Wide สามารถดูได้ที่นี่
แตกต่างจากเลนส์ Kit 18-55mm. ที่ระยะ 18 มากน้อยแค่ไหน คุ้มค่ามั้ยที่จะซื้อ
บางคนที่มีเลนส์ Kit 18-55 อาจจะคิดว่า ถ้าถ่ายที่ 18mm มันก็ wide ระดับนึงแล้วหนิ แล้วมันแตกต่างกันมากไหมกับการถ่ายที่ 10mm?
ถ่ายด้วย Kit 18-55 ซูมที่ 18mm เก็บได้กว้างประมาณนี้ค่ะ
ถ่ายด้วย 10-22 ซูมที่ 10mm. ได้ความกว้างประมาณนี้ กว้างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
สวยเวอร์กับภาพ Twilight Portrait
เลนส์ 10-22 นอกจากจะเอามาถ่าย Land Scape ถ่ายคนแบบขำๆ แล้ว ยังเอามาถ่ายแบบไม่ขำก็ได้ เช่นภาพแนว Twilight Portrait ที่ต้องเก็บวิวกว้างๆ และแสง Twilight บนท้องฟ้า ซึ่งเลนส์ Normal ทำได้ยากค่ะ (ยิ่ง Tele ยิ่งไม่ต้องพูดถึง)
ถ่ายเก็บท้องฟ้าช่วง Twilight ได้หมด
แล้วเราควรเลือกฟิลเตอร์อะไรเพื่อปกป้องหน้าเลนส์ (หรือ CPL แบบไหน)
Canon 10-22mm หน้ากว้่าง 77mm ดังนั้นฟิลเตอร์ที่เราเลือกต้องเลือกหน้า 77mm และที่สำคัญต้องมีขอบที่บางๆ เพราะ ถ้าขอบหนาๆ ขอบของฟิลเตอร์อาจจะทำให้ภาพเกิดขอบดำได้ค่ะ
ยี่ห้อที่แนะนำก็ Hoya HD, NiSi, หรือของ Canon เองก็ได้ (ความเห็นส่วนตัว ถ้าเล่น Canon ไปเล่น Hoya หรือ NiSi ดีกว่า เพราะกระจกของฟิลเตอร์ทั้ง 2 ยี่ห้อจะมีเคลือบกันน้ำเกาะ คือถ้าเปียกน้ำมันจะเช็ดออกง่าย ส่วนระหว่าง Hoya กับ NiSi จะเลือกยี่ห้อไหน อันนี้แล้วแต่ความชอบ คุณภาพใกล้เคียงกัน แต่ NiSi จะถูกกว่า Hoya ครึ่งๆ)
เช็ค spec และราคาของ NiSi MRC ได้ที่นี่
สำหรับคนที่ชอบภาพสไตล์เลนส์ Wide แบบนี้ แต่มีกล้องตัวคูณอาจจะเริ่มถามว่า ถ้าจะซื้อเลนส์ Wide ขอแบบ L ไปเลยมีหรือป่าว จะได้ซื้อทีเดียว เผื่ออนาคตเปลี่ยนไปใช้กล้อง Full Frame ก็ยังจะสามารถใช้เลนส์ตัวนี้ต่อได้
คือเลนส์ Wide ระดับ L ของ Canon มันก็มี Canon 16-35 F2.8 L และ Canon 17-40 F4 L สังเกตุว่า ไม่มีที่ทางยาวโฟกัส 10mm เลย เพราะเลนส์ Wide เหล่านั้นมันทำมาสำหรับใช้กับกล้อง Full Frame ไงหละ ถ้าเอามาใส่ในกล้องตัวคูณมันจะไม่ Wide ซักเท่าไรเลย (ลองเอาเลขไปคูณ 1.6 ดูสิ)
ดังนั้น ถ้าใครใช้กล้องตัวคูณอยู่ คุณไม่ต้องคิดมาก Canon เค้ามีเลนส์ Wide สำหรับกล้องตัวคูณอยู่แค่ตัวเดียว คือ 10-22 ค่ะ
สุดท้าย เลนส์ตัวนี้อาจจะเป็นเลนส์ที่คุณใช้มันบ่อยที่สุดตัวนึงเลยเหมือนกับเราก็ได้ค่ะ เพราะเราใช้ทั้งถ่าย บรรยากาศ ถ่ายหนุกหนาน ถ่าย event และ ใช้มันกับการท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่เลย
สรุปว่า สำหรับคนที่เล่นกล้องตัวคูณ เลนส์ตัวนี้คุ้มค่าแน่นอน ฟันธง!!!
ถ้าได้ลองใช้อย่างจริงจัง รับรองว่าคุณจะต้องหลงรักมัน อย่างเก้าแน่นอนค่ะ ^o^
Wide, I Love You..... อิอิ ขอซะหน่อย