Basic การถ่ายภาพ

ท้องฟ้าสีสวยๆ ต้องถ่ายตอนไหน


ถามว่าช่วงเวลาไหนที่จะถ่ายภาพวิว หรือ Landscape ได้สวยที่สุด...
ตอบว่า ช่วงทไวไลท์ (Twilight) ซึ่งไม่ได้เกียวกับหนังทไวไลท์แต่อย่างใด (มุกคลาสสิค)

งั้นกี่โมงหละที่ถือว่าเป็นช่วงทไวไลท์...
ตอบว่าช่วงเวลา ก่อน พระอาทิตย์ขึ้น 30 นาที และ หลัง พระอาทิตย์ตก 30 นาที


งั้นก็หมายความว่าถ่าย Landscape กันได้แค่วันละ 60 นาทีละสิ เช้า 30 เย็น 30...
ตอบว่าใช่ ถ้าต้องการภาพ Landscape ที่แสงและสีสวยที่สุดของวัน
แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก ไม่แคร์ จะถ่ายกี่โมงก็ได้

ชัวร์นะว่าได้แค่ 30 นาทีก่อนพระอาทิตย์ขึ้นและ 30 นาทีหลังพระอาทิตย์ตก...
ตอบว่า ไม่ชัวร์หรอกค่ะ ธรรมชาติน่ะ มันมีปัจจัยหลายอย่างทั้งสภาพอากาศและทำเลสถานที่ เราแค่บอกเป็นไกด์ไว้คร่าวๆว่าประมาณนี้นะ

วิธีดูช่วงเวลา Twilight จะดูจากเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น และตกในวันนั้น โดยเปิดดูจากแอพพยากรณ์อากาศก็ได้
พอรู้เวลาพระอาทิตย์ขึ้น/ตกปุ๊บ เราก็บวกไปอีก 30 นาที เราก็จะรู้ว่าเราควรเริ่มถ่ายรูปตอนกี่โมง และจบตอนกี่โมง ดูตัวอย่างจากภาพด้านล่าง สมมติว่าวันนั้นพระอาทิตย์ขึ้นตอน 6.00 และตกตอน 18.45 น. ช่วงเวลาที่เกิด Twilight เช้าคือ 5.30 - 6.00 และเย็นคือ 18.45 - 19.15 น. นั่นเอง



ไปออกทริปกันเลย สมมติว่าเราออกไปถ่ายทไวไลท์เย็นที่ช่องนนทรี โลเคชั่นสุดฮิตสำหรับขาแลนด์ ซึ่งมีอยู่ 2 มุมคือ ตึกสาธรสแควร์ และตึกเอ็มไพร์ พอเรากางแผนที่ Google Map ดูจะเห็นว่าทิศทางที่ชี้กล้องไปมันคนละทิศกันเลย

ถ้าถ่ายตึกสาธรสแควร์ จะ point กล้องไปทิศตะวันตก
ถ้าถ่ายตึกเอ็มไพร์ จะ point กล้องไปทิศที่ตรงข้ามกัน



ลองเริ่มถ่ายกันเลย มุมตึกสาธรสแควร์ ถ่ายในช่วงเวลา Twilight หลังพระอาทิตย์ตก 30 นาที ฟ้าที่ได้เป็นสีออกชมพูๆ ม่วงๆ แนวหวานๆ



ทีนี้เราลองมาอีกวัน แต่เปลี่ยนเป็นมุมตึกเอ็มไพร์ ถ่ายในช่วงเวลา Twilight หลังพระอาทิตย์ตก 30 นาที ฟ้าที่ได้เป็นสีน้ำเงินเข้มปิ๊ดเลย



จากเหตุการณ์นี้ เราเลยรู้ว่า ทิศทางที่ point กล้องไปก็ทำให้ได้แสงสีท้องฟ้าช่วงทไวไลท์ที่ต่างกัน
ถ้าคุณหันหน้าไป ทางทิศที่พระอาทิตย์ขึ้นหรือตก คุณจะได้ท้องฟ้า สีม่วงๆ ชมพูๆ หลากสีเลยหละ



ถ้าคุณหันหน้าไป ทิศ ตรงข้าม กับพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก คุณจะได้ท้องฟ้า สีน้ำเงินเข้มๆ สวยๆ



มาดูตัวอย่างภาพกัน บรรยากาศร้านอาหารตอนเย็น เวลา 18:19 หันหน้าไป ทิศตรงข้ามกับพระอาทิตย์ ได้ฟ้า Twilight สีน้ำเงินเต็มๆ



ถนนสาทร ตอนเช้า 06:21 หันหน้าไป ทิศตรงข้ามกับพระอาทิตย์ ได้ Twilight สีน้ำเงินเข้มเต็มๆ เหมือนกัน



เซ็นทรัลเวิร์ล ตอนเย็น 18:35 หันหน้าไป ทางพระอาทิตย์ตก ได้ Twilight สีม่วงๆ



เซ็นทรัลเวิร์ล ตอนเย็น 18:39 หันหน้าไป ทิศตรงข้ามกับพระอาทิตย์ เกือบไม่ได้ Twilight แล้ว เพราะแสงเริ่มๆ จะหมดแล้ว สีน้ำเงินที่ได้ค่อนข้างติดสีดำๆ ซึ่งทำให้ภาพนี้เกือบเป็นภาพสุดท้ายในวันนั้น ทั้งที่ห่างจากภาพแรกแค่ 4 นาที แต่แสงออกมาคนละแบบเลย ถ้าจะเก็บ Twilight ในตอนนี้ ควรต้องหันหน้าไปทิศตะวันตกอย่างเดียวแล้วหละ เพราะยังมีแสงที่ถือว่าเป็น Twilight อยู่



ถนนสาทร ตอนเช้า 06:19 เช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ทิศตรงข้ามกับพระอาทิตย์ สายตาเราเห็นเป็นสีดำ แต่กล้องเห็นเป็น สีน้ำเงินเข้มๆ แล้ว



ตอนเช้า ทิศตรงข้ามกับพระอาทิตย์ ผ่านไปเพียงแค่ 4 นาที ท้องฟ้าก็กลายเป็นอีกสีนึงไป นี่คือเสน่ห์ของ Twilight



ตอนเช้า ทิศตรงข้ามกับพระอาทิตย์ ผ่านไปอีกแค่ 6 นาที ซึ่งเป็นมุมเดียวกันกับภาพด้านบน Twilight ได้จากเราไปแล้ว (เพราะพระอาทิตย์ได้ขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว)



สะพานพระรามแปด ตอนเย็น 18:43 หันหน้าไป ทางพระอาทิตย์ตก ได้ Twilight สีสวยๆ และเก็บได้นานมากๆ เพราะสะพานอยู่สูง ไม่มีอะไรมาบังแสงพระอาทิตย์ตกได้มากนัก



แต่ถ้าเรามาดูกันว่า ตอนเย็น 18:19 (ซึ่งตามเวลาพระอาทิตย์ตกวันนั้นน่าจะ Twilight ได้แล้ว) หันไปทางพระอาทิตย์ตก กลับยังไม่เกิด Twilight ถึงพระอาทิตย์จะตกไปแล้ว แต่แสงยังแรงมากไปหน่อย



สะพานพระรามแปดเป็นที่ที่เก็บ Twilight ได้สวยมาก และง่ายมาก เพราะเป็นสะพานที่สูง และแถวๆนั้นไม่ค่อยมีตึกมสูงมาบังแสง เหมาะมากสำหรับมือใหม่ผู้คลั่งไคล้ Twilight



วัดโพธิ์ ตอนเย็น เวลา 18:35 หันหน้าไปทิศเหนือ (กึ่งกลางระหว่างทิศที่พระอาทิตย์ขึ้นและตก) จะได้แสงกึ่งๆ ระหว่างแสงสีม่วงๆ ชมพูๆ กับแสงสีน้ำเงินของ Twilight ในทิศตรงข้ามกับพระอาทิตย์



ด้านหลังของวัดพระแก้ว ตอนเย็น เวลา 18:43 หันหน้าไปทางพระอาทิตย์ตก ได้ฟ้า Twilight สีชมพูๆ สวยๆ



ถ้าดูจาก Electronic ViewFinder แล้วเห็นฟ้าสีดำๆ มืดๆ แบบนี้ ให้เข้าใจได้เลยว่า หมดเวลาของ Twilight แล้ว ถ่ายไปจะได้ท้องฟ้าสีดำๆ ซึ่งไม่สวย



โลหะปราสาท ตอนเย็น 18:43 หันหน้าไปทางพระอาทิตย์ตก ได้ Twilight สีฟ้าๆ ชมพูๆ



ผ่านไปแค่ 4 นาทีเท่านั้น ทิศเดิมๆ มุมเดิมๆ เฉียงออกไปอีกหน่อย กลับได้ Twilight ที่มีสีสันแตกต่างกันออกไป



แต่ต้นเกริ่นเอาไว้แล้วว่า มีเรื่องของสภาพอากาศเข้ามาเกี่ยวข้องกับ Twilight ด้วยนะ

ภาพนี้ถ่าย ตอนเย็น เวลา 18:44 ในทิศตรงข้ามกับพระอาทิตย์ ซึ่งอันที่จริงควรจะได้ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มๆ แต่ทำไมถึงได้ท้องฟ้าสีฟ้าๆ ชมพูๆ แบบนี้ได้...
วันนั้นฝนตก และหยุดตกก่อน Twilight ประมาณ 30 นาที บอกเลยว่า ฟ้าหลังฝนที่เป็น Twilight จะสวยมากๆ เหมือนไอน้ำในอากาศมันช่วยสะท้อนแสงให้แปลกและแตกต่างออกไปจาก Twilight ที่เคยๆ สำหรับหลังฝนตกในช่วง Twilight ทิศที่ท้องฟ้าสีสวยมากๆ กลับกลายเป็นทิศตรงข้ามกับพระอาทิตย์



แต่พอผ่านไป 5 นาที แสงสวยๆ นั้นก็หมดไปอย่างรวดเร็ว กลับกลายเป็น Twilight สีน้ำเงินของทิศตรงข้ามกับพระอาทิตย์ตามเดิม



ผลจากฝนตก ทำให้ช่วงเวลาของ Twilight ผิดเพี้ยนออกไป อย่างภาพนี้ถ่ายตอน 19:01 ซึ่งถ้าเป็นปกติ ท้องฟ้าจะมืดไปแล้ว



ผ่านไป 9 นาทีถึงเริ่มมืด ถือว่าวันนั้นระยะเวลาของ Twilight ขยายออกไปมากกว่าปกติ คุ้มค่ากับการเสี่ยงรอฝนหยุดตกจริงๆ



ร้านริมผาลาพิน ตอนเย็น เวลา 19:01 หันหน้าไปทางพระอาทิตย์ ก่อนมาถึงร้านประมาณ 5 โมง ฝนเพิ่งหยุดตก เลยเก็บ Twilight ได้จนถึง 1 ทุ่มเลย



ตึกใบหยก 1 ห้องอาหารบางกอกสกาย ตอนเย็น เวลา 18:59 วันนั้นไม่มีฝน Twilight หมดไปแล้ว เหลือเพียงท้องฟ้ามืดดำ สำหรับขา Twilight แล้ว... จ๋อย



ห้องอาหารบลูสกาย ตอนเย็น เวลา 18:31 วันฝนตก เรียกว่าตกยาว และจะณะที่ถ่ายฝนเพิ่งหยุดตก หันหน้าตรงข้ามกับพระอาทิตย์ ไม่เห็นท้องฟ้าสีน้ำเงิน กลับเห็นท้องฟ้าเป็นสีชมพูม่วงๆ แทน (ทั้งที่จริงๆต้องได้ฟ้าทีน้ำเงินตามชื่อห้องอาหาร ถ้าฝนไม่ตก)



มุมเดียวกัน เวลา 18:52 Twilight จากเราไปแล้ว... เร็วกว่าที่คิดใช่ปะ... ก็แล้วคุณจะเอาอะไรกับธรรมชาติหละ



ถ้าฟ้าดำแบบนี้ คือหมดเวลาช่วงทไวไลท์ไปแล้วนะจ้ะ



สรุปว่า ช่วง Twilight จะอยู่ประมาณก่อนพระอาทิตย์ขึ้น 30 นาที และ หลังพระอาทิตย์ตก 30 นาที เกินหรือสั้นกว่านั้นได้นิดหน่อยตามสภาพอากาศ และฤดูกาล

และในความเห็นของทีม iLoveToGo คิดว่า Twilight ที่สวยที่สุด จะอยู่ทิศเดียวกันกับพระอาทิตย์ช่วง หลังหรือก่อนพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกไปแล้ว 15 นาที เพราะสีท้องฟ้าจะหวานมากๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบและ Concept ที่นักถ่ายรูปต้องการนะ