สินค้าที่เลือกมีหลายสเปค/สี/ราคา โปรดเลือกจากรายการด้านล่างแล้วคลิกปุ่ม "ใส่ตะกร้าสินค้า"

Basic การถ่ายภาพ

ถ่ายพอทเทรต Twilight City Portrait ด้วยแฟลช

content นี้ เอาใจขาแลนด์ที่ชอบถ่ายพอทเทรดแน่ๆ




วันนี้เราจะมาถ่าย Twilight City Portrait กันค่ะ

ก่อนอื่น Twilight คืออะไร?
มันคือช่วงแสงที่สวยที่สุดของวัน เกิดขึ้นก่อนพระอาทิตย์ขึ้นและหลังพระอาทิตย์ตก 30 นาที (ขาแลนด์สเคปจะเล็งเฉพาะช่วงเวลานี้แหละ)

หมายเหตุ : ว่าแต่ทำไม Director ถึงปรับภาพหน้าดิชั้นดำขนาดนี้ จริงๆ แล้วดิชั้นขาวมากนะคะ ><



City Portrait หละ?
ก็คือ Portrait ธรรมดาๆ เนี่ยแหละค่ะ แต่ถ่ายแนว City City ดังนั้นที่เราจินตนาการไว้ก็คือ สาวชาวเมือง อยู่กับฉากหลังเสืองๆ มีตึก มีคน มีไฟ

เพราะฉะนั้น Twilight City Portrait ก็คือ การถ่าย Portrait ในเมืองช่วงแสง Twilight นั่นเอง (บัญญัติเองเสร็จสรรพ) นี่คือ Final Image ที่เราคิดกันเอาไว้



สถานที่ที่เราเลือกให้เข้ากับ concept ของภาพก็คือ BTS ช่องนนทรีซึ่งจะมีสถาปัตยกรรมสวยๆ ที่คนนิยมมาถ่ายกันนั่นเอง



อุปกรณ์ที่เราใช้หละ?

1. กล้องถ่ายรูป เราใช้ Canon 600D (กล้องยี่ห้ออะไรก็ได้ ไม่ต้องคิดมากนะคะ ^_^)



2. เลนส์มุมกว้าง เพราะเราต้องการเก็บท้องฟ้าและบรรยากาศช่วง Twilight เราจึงเลือก Canon 10-22mm F3.5-4.5 USM ตัวโปรด ถ้าใครไม่มีเลนส์ Wide ก็ใช้เลนส์ที่มีมุมกว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้ เช่น kit 18-55 แล้วบิดไปที่ 18mm ก็ได้ค่ะ



3. แฟลชแยก รุ่นไหนก็ได้ หรือถ้าไม่มีก็ใช้แฟลชหัวกล้องแทน (แต่อาจจะเกิดปัญหาบางอย่าง เดี๋ยวค่อยว่ากัน)



มาถึงการ Set ตัวกล้องกันบ้าง

งานนี้เราจะถ่ายกันด้วยโหมด M เพราะอะไร? มันเทพดี? มันโปรดี? ป่าว...

เพราะเราถ่ายอยู่ในช่วงแสงเดิมๆ แค่มันจะค่อยๆ มืดลงเท่านั้นเอง และเราใช้แฟลชถ่ายด้วย ถ้าเราถ่ายด้วยโหมด AV จะเกิดอะไรขึ้น? ค่า speed shutter ที่ได้อาจจะสวิงไปสวิงมา เดี๋ยวแสงกำลังดี แต่เดี๋ยวอาจจะสว่างไปก็ได้ เพราะเราถ่ายก้ำกึ่งระหว่างฟ้ากับแบบ กล้องอาจจะคำนวณแสงได้ยากและให้ค่าที่ผิด และอีกอย่าง เราใช้แฟลชที่ตั้งเป็น auto อีกตะหาก ถ้าเราให้ทุกอย่าง auto มันอาจจะไปกันใหญ่เข้ารกเข้าพงกันไปก็ได้นะคะ



โหมดวัดแสงหละ?

เราเลือกวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ เพราะอะไร? เพราะมันง่ายดี ช่วงเวลา twilight มันสั้นมากเลยนะ แค่ 30 นาทีเอง อะไรทำให้ถ่ายได้ง่ายก็ทำไปเถอะ หรือใครเทพมากๆ แม่นมากๆ จะใช้วัดแสงเฉพาะจุดไปก็ได้ค่ะ

วัดแสงที่ไหน?
วัดแสงที่ท้องฟ้า ใครตั้งเฉลี่ยทั้งภาพก็วัดไปเลยตรงๆ ใครตั้งวัดเฉพาะจุดก็ชี้ไปตรงที่เป็นความสว่างระดับเทากลาง



สำหรับเลนส์ ก็ปรับเป็นมุมกว้างที่สุดของมัน เราใช้ 10-22 ก็ปรับไปที่ 10mm ถ้าใครใช้ 18-55 ก็บิดไปที่ 18mm เพราะ Twilight Portrait เราต้องการเก็บท้องฟ้า ก็มาถ่าย Twilight ก็ต้องเก็บท้องฟ้าให้ได้เยอะๆ จิ



แล้วค่าต่างๆ ที่ตัวกล้องจะตั้งยังไง? ถ้ามืดลงเรื่อยๆ ต้องปรับค่าไหน?

ตามสูตรโหมด M เราก็ต้องเริ่มจากปรับ ISO ให้เป็น 100 ก่อน



ค่า F ก็ปรับไปที่รูรับแสงกว้างสุดที่เลนส์เราทำได้ เช่น 10-22 ที่ 10 ได้รูรับแสงกว้างสุด F3.5 ก็ปรับไป F3.5



Speed Shutter เราจะใช้ความเร็วที่ช้าที่สุดเท่าที่เราถือได้และสามารถหยุดแบบได้ไม่ให้เบลอ เราจะใช้ที่ 1/20 และเราจะใช้ speed นี้ถ่ายไปเรื่อยๆ ตลอด Trip ค่ะ เราจะไม่มาเปลี่ยนค่า speed shutter แต่เราจะปรับค่าที่รูรับแสงเท่านั้น



การวัดแสง ก็ point กล้องไปที่ท้องฟ้าแล้ววัดแสงให้ Scale วัดแสงอยู่ตรงกลางพอดีค่ะ



อ่ะ อ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะหลุดๆ ไป มาทวนกันว่าต้องปรับอะไรยังไงค่ะ



เมื่อวัดแสงแล้ว Scale วัดแสงมันวิ่งไปทางบวก ก็ให้ปรับลดขนาดรูรับแสงเอา อย่าไปปรับที่ speed shutter นะคะ เพราะจะได้ลดความยุ่งยากในการ set กล้องลง อย่าลืมว่า twilight มันผ่านไปเร็วมาก อย่าสร้างความยุ่งยากและความงุงงงให้ตัวเอง



ตามนั้น



ปรับโหมด M ตรงนี้ ใครใช้ Canon ก็ M ใครใช้ Nikon ก็ M เหมือนกัน



ตั้งวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ



ปรับ ISO เป็น 100 ไว้ก่อน



ปรับรูรับแสงกว้างสุด เลนส์เราปรับกว้างสุดได้ที่ F3.5



ปรับ Speed Shutter 1/20



วัดแสงที่ท้องฟ้าและดู Scale วัดแสง ให้มันอยู่ตรงกลาง ถ้ามัน over ไปก็ปรับที่ค่ารูรับแสง



ตอนนี้อาจจะยังสว้างมาก ปรับมา F9 ก็จะได้ Scale วัดแสงที่อยู่ตรงกลาง
Twilight เวลาถ่ายไปเรื่อยๆ มันจะมืดลงเรื่อยๆ ใช่ปะ เราก็ค่อยๆ มาปรับรูรับแสงให้กว้างขึ้น พอมันกว้างสุดแล้ว ปรับกว้างไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว เราค่อยมาดัน ISO กัน



คราวนี้มาดูบทบาทหน้าที่ของ Flash กันบ้าง!!!

เริ่มจากว่า ทำไมเราต้องใช้แฟลช?

ถ้าไม่ใช้แฟลช เราจะได้ภาพแบบนี้ไง น้องเค้าหน้ามืดเชียว คือ ท้องฟ้ามันได้สีสันถูกปะ แต่แบบมืดแน่นอน ดังนั้น ถ้าจะเก็บฟ้าสีสวยๆ และเก็บแบบให้สว่างกำลังดีด้วย Flash เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ค่ะ



ส่วนทิศทางที่จะยิงแฟลชเข้าแบบก็ให้ทำมุม 45 องศาจากหน้าแบบ และทำมุม 45 องศาในมุมกด เพื่อให้หน้าแบบดูมีมิติ มีดั้งจมูก



ได้ประมาณนี้ ลอง Scroll ขึ้นไปเปรียบเทียบว่า ใช้กับไม่ใช้แฟลชมันต่างกันยังไง



สำหรับคนที่ไม่มีคนถือแฟลชให้ (เพื่อนไม่คบ) ก็ให้ใช้ขาตั้งกล้องช่วย แล้วปรับทิศทางของแฟลชให้เหมือนคนถือ คือ 45 องศาจากแบบและมุมกด



ได้ประมาณนี้



แล้วถ้าใครไม่มีขาตั้งกล้อง หรือ ทำแฟลชแยกไม่ได้หละ? ก็ติดแฟลชเข้าไปที่หัวกล้องตามปกติแหละ แต่วิธีนี้เราจะกำหนดทิศทางแสงที่เราอยากได้ ได้ยาก เพราะจะเป็นการยิงตรงเข้าแบบอย่างเดียว ต้องให้แบบหันหน้า 45 องศาให้เราเองนะ



ได้ประมาณนี้



แล้วใครที่ไม่มีแฟลชแยกหละ ทำไงดี? ก็ใช้แฟลชหัวกล้องไปก่อนละกัน แต่มันอาจจะมีปัญหานิดหน่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวค่อยว่ากันเรื่องปัญหา



แช๊ะ!



เคยมีกูรูฝรั่งเขียนไว้ว่า ถ้าเกลียดใคร ก็ให้ยิงแฟลชหัวกล้องใส่มันซะ เพราะแฟลชหัวกล้องมันเป็นอาวุธพลังทำลายล้างสูง (ทำลายล้าง ความหน้าตาดีของเรา ><)

แต่เท่าที่ดู แฟลชหัวกล้องมันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดนะ มันสาดแสงใส่คนทั้งตัวได้หน้าตาเฉยเลย



แต่มันก็มีปัญหานิดหน่อย คือ... ลองดูที่ขาของแบบสิ ไอ้เงาดำปริศนานี่มันคือเงาอะไรหนอ....



ทำซะจบหลังกล้อง (จบเห่)



มันเกิดจากเงาของปากกระบอกเลนส์ 10-22 แสนรักของเรานี่เองค่ะ...

คือแฟลชมันเล็กและมันก็อยู่ติดกับตัว body ของกล้อง กอปรกับเลนส์ 10-22 มันค่อนข้างใหญ่ ก็เลยเกิดเงาหนะสิคร๊าาาบบบบบ

ก็นะ... ทำไงได้ อุปกรณ์มันเป็นข้อจำกัดให้จินตนาการ เราก็ต้องใช้เงินไขขีดจำกัดเพื่อให้จินตนการเป็นจริงได้ง่ายขึ้น ใครรักแนวนี้ ก็น่าจะมีแฟลชแยกติดกระเป๋าไว้ซักอันนะจ๊ะ



สรุปหัวใจของภาพ Twilight Portrait ของเราคือ
1. เราต้องควบคุมความแรงของแฟลชให้ได้กำลังพอดี ไม่มืดหรือสว่างเกินไป
2. ต้องควบคุมทิศทางของแฟลชที่จะยิงเข้าหน้าของแบบ อย่าให้แบบหน้าแบน ดั้งหาย
3. ต้องไปให้ถูกช่วงเวลานะจ๊ะ ไปถ่าย Twilight ก็ต้องไปช่วงเวลาที่เกิด Twilight (ช่วงเย็นก็ประมาณ 6 โมงครึ่ง ถึง 1 ทุ่ม) ฟ้ามืดแล้วเลิกถ่าย (หันไปถ่าย Night Portrait แทน เด๋วมีให้ดู ถ่ายไว้แล้วแต่ยังตัดไม่เสร็จ เด๋วเสร็จจะมาวาง link ไว้ให้)
4. สถานที่ที่เลือกจะต้องตรงกับจินตนาการที่เราคิดเอาไว้ ไม่ใช่บอก Twilight Portrait ก็หาที่ไหนก็ได้รกๆ มีแบบยืนแล้วถ่ายกันไป แบบนั้นมันไม่สื่อความหมายนะจ๊ะ หาสถานที่ที่เข้ากับ concept ที่เราตั้งเอาไว้หละ อย่าลืม!

ถ่ายเสร็จแล้ว แต่ยังจบไม่ได้นะ ตามสไตล์ของ iLove เราจะต้องไปแต่งสีต่อใน Photoshop อีกซักหน่อย (No NoPS อิอิ)



เราถ่ายมาเป็น RAW เราได้ภาพสีสันประมาณนี้



Final Image ที่เราจินตนาการเอาไว้คือประมาณนี้ เพราะอะไรเราถึงทำสีแบบนี้?
เพราะเราถ่าย City งานแนว City ส่วนใหญ่สีสันจะจี๊ดจ๊าด สดใส ถ้าถ่ายมาแล้วจบที่ RAW แบบภาพด้านบน มันยังไม่ใช่สิ่งที่เราจินตนาการเอาไว้ เราจึงต้องมาใช้ Photoshop ช่วยให้จินตนาการของเราเป็นจริงค่ะ



เปิด Adobe Bridge ขึ้นมาแล้วเลือกภาพที่ต้องการ process



มันจะเปิดโปรแกรม Adobe Camera RAW ขึ้นมา เราจะเริ่มที่แท็ป Lens Corrections



เลือก Enable Lens Profile Corrections



จากนั้นเราก็จะไปปรับ White Balance กันค่ะ



ใช้ White Balance Tool



จิ้มไปที่สีขาวบนตัวแบบ ทำไมต้องจิ้มที่ตัวแบบ?
เพราะเราต้องการให้แบบเป็น White Balance จริง ได้สีผิวเป็นสีผิวจริงๆ (จริงๆ กล้องรุ่นใหม่ๆ มันก็ทำ Auto White Balance ได้อยู่แล้ว แต่บอกไว้เผื่อบางคนถ่ายมาแล้ว White Balance ผิดพลาด จะได้แก้ได้)



อย่างที่เกริ่นเอาไว้แล้วแต่แรก ภาพแนว City เราต้องการสีสันจี๊ดจ๊าดใช่มะ เราก็มาปรับที่ Vibrance ให้มันเพิ่มความอิ่มสีเข้าไป กรณีภาพนี้เราดันไปซะ 70 เลย จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่เรานะ เอาให้มันพอดี ไม่จี๊ดไป ไม่จืดไปละกัน จากนั้นก็กด Open Image แล้วเราจะไปปรับกันต่ออีกนิดหน่อยใน Photoshop



เราจะมาปรับ contrast ให้ภาพอีกนิดหน่อยด้วย Curves



ปรับไปตามชอบใจ กรณีภาพนี้เราปรับ Curves ประมาณนี้



เรียบร้อย



เอาหละ เราก็มาดูภาพกันเล่นๆ ละกันค่ะ (ครูถ่ายแบบเอาจริง แต่เราดูกันเล่นๆ อิอิ)









ถึงจะมีแฟลชแยก แต่บางทีมันก็ยิงไม่ออกบ่อยเหมือนกันนะเนี่ย อย่างเช่นภาพนี้ ออกแต่แฟลชหัวกล้องอย่างเดียว













ภาพต่อไปนี้ Process สีแปลกๆ ให้ดูกันหนุกๆ นะคะ

ภาพสีเทาๆ นี่ Inspired by Day By Day ของ T-ara (티아라) อ่ะ มีฟอนต์เกาหลีมาให้ เผื่อใครอ่านออก

 



2 ภาพนี้ตั้งใจเก็บสีฟ้าช่วงเกือบๆ Twilight การ Process ยังคงต้องการคงสีของท้องฟ้าเอาไว้เหมือนเดิม






ต่อไปอันนี้ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mark ii เลนส์ 70-200 กับ 24-70 ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวกับ Twilight Portrait เพราะน้าเล็กแกเล่นใช้แต่เลนส์ Tele 70-200 ส่องน้องเวียนนาซะส่วนมาก เลยไม่ได้ท้องฟ้า Twilight เลย ก็เอามาให้ดูกันหนุกๆนะจ๊ะ

ภาพนี้ฟ้าๆ นี่ Inspired จากโปสเตอร์หนังเรื่อง BATTLESHIP



ภาพนี้ปรับ White Balance โดยใช้ White Balance Tool จิ้มเข้าที่เสื้อและปรับ Curve



สีน้ำเงินๆ แบบนี้ทั้งหมด Inspired by BATTLESHIP ค่า







White Balance Tool จิ้มเข้าที่เสื้อแล้ว Curves เหมือนเดิม













ภาพสีเทาๆ นี่ inspire by Day By Day ของ T-ara(티아라)





ช่วง Twilight กล้องน้าเล็กแฟลชไม่ค่อยออก ส่วนใหญ่แป๊ก เลยได้ภาพน้อยหน่อยค่ะ



ถ่ายจนฟ้ามืดดำแล้วก็เลิกดีกว่า เถือถ่ายต่อไปก็ได้ฟ้าดำๆ ซึ่งเรามองว่ามันไม่สวยเท่าไรค่ะ หาหนมจีบซาลาเปาทานแล้วไปถ่าย Night Portrait กันดีกว่าค่ะ อิอิ



Location : BTS ช่องนนทรี
Model : น้องเวียนนา
FB : http://www.facebook.com/ichii.amane
สินค้าแนะนำ
x

ตะกร้าสินค้า

ไม่พบสินค้าในตะกร้า