สินค้าที่เลือกมีหลายสเปค/สี/ราคา โปรดเลือกจากรายการด้านล่างแล้วคลิกปุ่ม "ใส่ตะกร้าสินค้า"

รีวิวท่องเที่ยว

Day 5 ศุกร์ 20 พ.ย. 58 - โกเบ
เช้า : Kobe Animal Kingdom
บ่าย : เนื้อย่างโกเบร้าน Koju
เย็น : ช้อปปิ้ง Kobe Motomachi Shopping Street + Kobe China Town

เช้านี้ ออกเดินทางไป Kobe Animal Kingdom กัน พี่เก้าอยากไปเห็นตัวอัลปาก้าแบบตัวเป็นๆ

แผนที่ Kobe Animal Kingdom
Map : https://goo.gl/maps/U7BPPqBdw372
พิกัด : 34.654143, 135.222774
รายละเอียด : เปิด 10.00 - 17.00 น. ปิดทุกวันพฤหัส ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 1,500 เยน ผู้สูงอายุ (65ปีขึ้น) 1,100 เยน เด็ก 800 เยน
ดูตารางโชว์ : http://www.kobe-oukoku.com/campaign/en/animal.html

คล้ายสวนสัตว์เปิด ให้เราให้อาหารสัตว์ได้และมีโชว์สัตว์น่ารักๆ ก่อนไปให้เราไปดูตาราง show ก่อนว่ามันมีกี่โมงบ้าง เราจะได้ไม่พลาดโชว์นะจ้ะ นี่คือทางเข้า มันจะดูเล็กๆแบบนี้แหละ



เข้ามาโซนแรก จะโดนดักไว้ด้วยกระต่ายและหนูอ้วนๆ



มีกระต่ายหลายพันธุ์มาก และขนนู่มมมม



เราสามารถเข้าไปอยู่ในกรง และให้อาหารกระต่ายได้อย่างใกล้สุดๆ แค่เค้ามีกฎอยู่นิดนึงคือ อย่าอุ้ม, อย่า ส่งเสียงดัง, อย่าดึงหู และอย่าเอานิ้วไปแหย่ปากกระต่าย



มาดูทางหนูแฮมสเตอร์บ้าง ตาแป๋วๆ น่ารักๆ



พอออกจากกรงกระต่าย หันไปรอบๆตัว โอ้โหหห ดอกไม้เยอะมาก



ที่นี่เค้าปลูกดอกไม้และจัดสวนสวยๆให้เราได้ถ่ายรูปเล่นกันด้วย



ต้องยอมรับเลยว่า แค่ถ่ายรูปกับสวนกับดอกไม้ที่นี่ก็เพลิดเพลินมากๆแล้ว เพราะเค้าปลูกแบบอัดแน่นจัด เต็มจริงๆ







พี่เก้ากับแม่ผู้ชอบดอกไม้ก็เพลิดเพลินกับการถ่ายดอกนู้นดอกนี้ ใครชอบประมาณสวนดอกไม้ไรงี้ มาที่นี่ ไม่ผิดหวังแน่นอน





เดินลึกเข้ามาเป็นโซนโชว์นก มีทั้งนกแก้ว และนกฮูก น่ารักๆทั้งนั้น



ตัวนี้ดูง่วง มะคืนอาจจะนอนดึก





อีกโซนนึงเป็น โซนให้อาหารหนูคาพิบาร่า และเต่ายักษ์ เป็นโซนที่ถูกใจเรามากเพราะเจ้าหนูยักษ์แบบนี้ เราไม่เคยเห็นมาก่อน แถมยังเชื่องมากๆๆๆด้วย



เด็กๆก็มาให้อาหารกัน และไม่มีใครรังแกสัตว์พวกนี้เลยนะ นอกจากนี้พี่เก้ายังเจอเหตุการณ์ประทับใจที่น้อง เด็กญี่ปุ่นคนนี้แบ่งอาหารให้พี่เก้าด้วย ไม่ใช่เห็นว่าพี่เก้าหิวนะ เค้าจะให้ให้อาหารหนูตัวนี้ด้วยกัน



เหมือนกับคนญี่ปุ่นเค้าก็จะปลูกฝังให้รู้จักรักและเมตตาสัตว์ และมีใจแบ่งปันคนอื่นตั้งแต่เด็กๆเลย ก็เลยเป็น เหตุการณ์ที่ประทับใจของเราอีกอย่างนึงในทริปนี้



หนูกับเต่า อยู่ร่วมกันอย่างสันติ



พี่ฉิมก็ฟิน ได้ลูบหัวหนูคาพิบาร่า ขนมันจะหยาบๆ แข็งๆ



โซนต่อมา ให้อาหารนกเป็ดน้ำ



มีนกหลายพันธุ์มากๆ เดินเข้าหาคนแบบไม่กลัวเลย เจ้าหน้าที่เค้าก็เอาอาหารใส่มือให้เราป้อนให้นก ตอนแรกก็นึกว่าจะโดนจิกแบบเจ็บๆ แต่เอาเข้าจริงมันจั๊กจี๋มาก ปากนกมันเบามากๆเลย





ส่วนอันนี้เป็นโชว์สุนัขต้อนแกะ อยู่ด้านนอกอาคาร ลองดูในตารางโชว์ได้



ข้างๆการแสดงโชว์ ก็เป็นกรงอัลปาก้าแล้ว เราสามารถมาให้อาหารได้ด้วย



อัลปาก้าที่นี่มีอยู่ 2 ตัว สีครีมกะสีน้ำตาล ดูไปดูมาเหมือนหมาพุดเดิ้ลยักษ์มากๆๆ



ภารกิจของเราเสร็จสมบูรณ์ พี่เก้าได้มาดูอัลปาก้าตัวเป็นๆ น่ารักมากๆๆๆ



ที่ Kobe Animal Kingdom พวกเราลงความเห็นว่า ถ้าเป็นคนชอบสัตว์ ชอบเที่ยวเขาเขียวไรงี้ ควรมาเจิมที่ นี่เป็นอย่างยิ่ง แต่ควรมาวันธรรมดาดีกว่าเพราะคนจะไม่เยอะมาก สามารถเอ็นจอยเล่นกับสัตว์ได้สบายๆ แบบนี้



เสร็จจาก Animal Kingdom พี่เก้ารีเควสขอเนื้อโกเบอีกสักรอบได้ไหม ตอนแรกกะว่าจะไป Steak Land แต่ เจอคนเยอะขนาดหนัก เลยพุ่งตัวมาที่ Ikuta Road ถนนสายอาหารแห่งโกเบกันเลยดีกว่า และคราวนี้เป็น การเลือกร้านแบบไม่ได้เตรียมข้อมูลกันมา สุดท้ายก็มาลงเอยที่ร้าน Koju

แผนที่ ร้านเนื้อย่าง Koju
Map : https://goo.gl/maps/dap1QzbidTk
พิกัด : 34.692796, 135.191296
รายละเอียด : กดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 2 ของตึก



บรรยากาศในร้านเป็นร้านโทนสีดำแดง ไม่ได้แต่งหรูมากแต่นั่งสบายนะ



เครื่องเคียงในชุด ไม่ได้อลังวังเว่อร์แบบรอยัลโมริยะ แต่โดยรวมก็โอเค ชอบซุปรสชาติกลมกล่อมดี



ร้านนี้ถูกกว่า Royal Mouriya เมื่อวานหน่อยนึง เราเลือกเป็น Set Dinner 9,700 เยน เชฟจะถามว่าให้ย่าง แบบไหน เราก็ขอเป็น Medium ละกัน



ก่อนเชฟจะลงมือย่างเนื้อ ก็บอกว่าเอากล้องมานี่ จะถ่ายรูปพวกเธอคู่กะเนื้อให้เป็นที่ระลึกนะ เราเลยรู้สึกว่า เชฟโกเบนี่คงจะมีสกิลถ่ายรูปกันทุกคนแหงๆ มา 2 ที่ก็ถ่ายให้ทั้ง 2 ที่เลย



ที่ร้านโคจูจะออกแนวลูกทุ่งกว่า Royal Mouriya นะ เนื้อนู่มมมมมากกกกก กัดแล้วมีน้ำในเนื้อกระจายในปากอ่ะ และเนื้อก็มีกลิ่นหอมเกรียมๆ



เชฟค่อยๆหั่นเนื้อให้ และเสิร์ฟแบ่งให้เราตามจำนวนคน



ตอนจิ้มกะวาซาบิ มันอร่อยกลมกล่อมมากกกก เพราะวาซาบิมีร้านนี้เป็นวาซาบิแบบขูดหยาบๆที่มีความเค็ม ในตัวอ่ะ กินกะข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆนี่มันฟินแบบสุดๆไปเลย



ร้านนึ้ถึงจะใช้เนื้อคุณภาพไม่เท่ารอยัล โมริยะ มีการใช้วาซาบิ น้ำจิ้มอะไรเยอะกว่า แต่รสชาตินี่มันลงตัว มากๆ จะว่าไปแล้วสำหรับเรา เรารู้สึกว่ามันเป็นอีกรสชาตินึงที่น่าจะถูกปากคนไทยอย่างเรานะ



กินอิ่มแล้วไปต่อกัน เราจะเลยไป Shopping กันที่ Kobe Motomachi Shopping Street

แผนที่ Kobe Motomachi Shopping Street
Map : https://goo.gl/maps/5RPHoCMk6PC2
พิกัด : 34.6888978,135.1896604

เดินข้ามถนนแล้วตรงเข้าไปตรงทางเดินที่มีป้ายเขียนว่า Motomachi เลย



ที่นี่เป็นถนน Shopping ในร่มยาวๆไป 2ฝั่งก็มีร้านอาหาร ร้านขายขนม ผลไม้ เสื้อผ้า คละๆกันไปตลอดทาง



พวกนี้ก็เป็นร้านรวงต่างๆที่อยู่ในนี้



ขายปนๆกันไป มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า ผลไม้ ขนมญี่ปุ่น



สิ่งที่ดีงามคือ ซอยกว้างมาก เดินสบาย และสะอาดสุดๆ



ระหว่างเดินที่ โมโตมาจิ เราจะเห็นทางเชื่อมไปไชน่าทาวน์ด้วย

แผนที่ China Town
Map : https://goo.gl/maps/3pUoZtdaXe82
พิกัด : 34.688584, 135.187947

ถ้าใครเบื่อๆก็เดินต่อไปไชน่าทาวน์ได้เลย ของกินเพียบบบบ



ร้านนี้คือร้านซาลาเปา Rosyoki เป็นร้านซาลาเปาเก่าแก่ในย่านไชน่าทาวน์ ทำเฉพาะซาลาเปาหมูสับอย่าง เดียวในจำนวนจำกัด ถ้าหมดก็ปิดร้านเลย ความอร่อยน่าจะดูได้จากคิวที่แสนจะยาวเฟี้อย แต่เราก็อิ่มเกิ๊น แล้ว เลยพามาดูบรรยากาศอย่างเดียวนะจ้ะ



ตรงหัวมุมนี้เป็นร้านเนี้อโกเบ แต่ไม่รู้ว่าเป็นแบบไหน



จากนั้นเราก็มาเดินโมโตมาจิต่อ ซึ่งร้านที่ดูดเงินเราได้มากสุดคือ แอ่นแอ๊นนน ร้านขายขนมญี่ปุ่นนั่นเอง



สิ่งที่พวกเราชอบ ก็เป็นพวกปลาหมึกซองๆอ่ะ แล้วก็พวกบิสกิตช็อคโกแลตไรงี้ เห็นแล้วก็อยากจะหยิบให้หมดเลย



ช้อปกันจนหนำใจ ได้ขนมมาคนละถุง 2 ถุงเอาไว้กินที่โรงแรม ก็ขอปิด Day 5 ไว้ตรงนี้ กลับไปนอนโอซา ก้าก่อนหล่ะ เด๋วพรุ่งนี้มาลุยกันต่อจ้า



สินค้าแนะนำ
x

ตะกร้าสินค้า

ไม่พบสินค้าในตะกร้า