รีวิวท่องเที่ยว

Day 4 พฤหัส 19 พ.ย. 58 - โกเบ
เช้า : The Great Hanshin Awaji Earthquake Memorial
บ่าย : ร้านเนื้อย่างโกเบ Royal Moriya
เย็น : Kobe Haborland + ห้าง Mosaic + ร้านชีสเค้ก Canonya

แผนที่ The Great Hanshin Awaji Earthquake Memorial
Map : https://goo.gl/maps/6ZYaqDDc5eT2
พิกัด : 34.698186, 135.214504
รายละเอียด : เปิด 9.30 - 17.30 น. ปิดทุกวันจันทร์ ค่าเข้าคนละ 600 เยน



เค้าสร้างที่นี่ขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 17 ม.ค. 1995 ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุด ในรอบ 72 ปี ขนาด 6.9 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่ที่เกาะ Awaji



เหตุการณ์เกิดแค่ 20 วิ แต่ทำให้บ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างพังทลาย และเกิดไฟไหม้อย่างหนักเพราะท่อส่ง ก๊าซรั่ว ผลจากแผ่นดินไหวครั้งนั้นคือ ตาย 6000 คน, บาดเจ็บ 40,000 คนและไร้ที่อยู่ 300,000



ที่นี่ เราได้เข้าใจถึงความยากลำบากของชาวโกเบในช่วงนั้น ที่พบกับความสูญเสียแบบสายฟ้าแล่บ ทำให้ เมืองทั้งเมืองเสียหายยับเยิน ครอบครัวต้องพลัดพรากจากกันโดยไม่ทันได้ลา

แต่ช่วงนั้นก็ได้กำลังใจจากคนในชาติเดียวกันและต่างชาติช่วยๆกันส่งของมาช่วยเหลือ และด้วยความฮึดสู้ ของชาวโกเบ ก็ฟื้นเมืองกลับมาเป็นเมืองที่สวยงาม และพร้อมวิธีป้องกันแผ่นดินไหวในเวลาแค่ 1 ปีเท่านั้น



ที่นี่จะมีอาสาสมัครชาวญี่ปุ่นมาให้ความรู้เกี่ยวกะแผ่นดินไหวด้วยนะ ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เกษียณอายุแล้ว อย่างคุณลุงคนนี้เป็นอาสาสมัครที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีมากกกก กำลังเดโม่โครงสร้างตึกที่สร้างมาเพื่อรับ มือกับแผ่นดินไหว ถึงจะสะเทือนยังไงตึกก็ไม่ถล่มลงมา แค่หาที่หลบใต้โต๊ะก็พอ



คุณลุงก็เดโม่ให้ดูว่า แผ่นดินไหวเกิดได้ยังไง และความรุนแรงมันแผ่ขยายออกมาได้ยังไง โดยเค้าใช่สื่อ เป็นตัวตุ๊กตา ทำให้ง่ายในการเข้าใจมากขึ้น



หิวแล้ววว ออกเดินทางกันต่อไปกินข้าวกลางวันกัน ไหนๆก็มาโกเบทั้งที จะพลาดลองชิมเนื้อโกเบได้เยี่ยง ไร เราเลยไปตามหาร้านเนื้อโกเบที่เค้าว่าอร่อยๆ ก็คือร้าน Royal Mouriya อยู่บนถนน Ikuta Road ถนนสายอาหารแห่งโกเบ

แผนที่ ร้านเนื้อโกเบ Royal Mouriya
Map : https://goo.gl/maps/FzCYENUPHNm
พิกัด : 34.692766, 135.191434
เว็บไซต์ร้าน : http://www.mouriya.co.jp/en/
Counpon ลดราคา 5% : http://www.mouriya.co.jp/en/royal/coupon.html

จริงๆโมริยะ มี 2 สาขานะ แต่สาขาที่เราไปตรงหัวถนนมันเต็ม เราเลยระเห็จมาอีกสาขานึง ซึ่งอันนี้ เป็น สาขาหลักของเค้า เราลองกดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 3 ก่อน ปรากฎที่ร้านบอกว่าถ้าไม่จองมาก่อนก็ไม่ได้นะ ตอนนี้ เต็ม เลยลองกดลิฟท์ไปชั้น 2 ดู



ที่ชั้น 2 ร้านดูหรูมากกกก เค้าจะเริ่มด้วยคำถามแรกว่าจองมารึป่าว ซึ่งแน่นอนพวกเราไม่ได้จองมา ดังนั้น แนะนำใครอยากมากินเนื้อโกเบ จองผ่านเว็บเค้าไว้ก่อนเลยดีกว่ารับรองว่าได้กินแน่นอน จากที่เห็นความหรูหราของร้าน เราไม่แน่ใจว่าตังค์จะพอจ่ายรึป่าวนะ ถ้าตังไม่พอนี่ล้างจานสถานเดียว



สำหรับร้านเนื้อย่างโกเบ เค้าจะขายเป็น 2 รอบคือ Lunch และ Dinner พวกเรามาเป็นช่วง 15.00 ก็เลยได้ กินเป็นมื้อ Dinner ไป ลองเปิดดูเมนูแล้วเริ่มใจชื้นเพราะตังน่าจะพออยู่นะ

เปิดดูในเมนูจะมี 2 Set ให้เลือก คือ A กับ B ซึ่งต่างกันตรงที่ Set A มันจะได้ Appertizer น้อยกว่า Set B เราเลยเลือก B แทน

สิ่งที่เราสั่งคือ Set B เป็น Sirloin 2 ชุด และ Tenderloin 2 ชุด ราคาชุดละ 12,400 เยน ในชุดจะรวม Appertizer, สลัด, ซุป, ข้าว และเนื้อโกเบที่ได้จะเป็น Grade A4 พอคูณเป็นเงินไทยก็ตกชุดละ 3,596 บาท



เอาวะสักมื้อน่าาาา การเดินทางของเรา มันต้องลองอะไรใหม่ๆ จะได้เป็นการเพิ่มรอยหยักในสมองขึ้นอีก

อันดับแรกเชฟก็จะมาย่างกระเทียมก่อน ซึ่งย่างอย่างใจเย็นมาก เป็นชิ้นต่อชิ้น ย่างไปยิ้มไป อารมณ์ดี ชีวิต สโลว์ไลฟ์ ต่อมาก็ย่างเนื้อไปพร้อมๆกับย่างผักเครื่องเคียง ในขณะที่เราดูเชฟย่างไปพลาง Appertizer ก็ ทยอยมาเสิร์ฟเรื่อยๆ



นี่คือเหล่าเครื่องเคียงใน Set นะจ้ะ ไม่ใช่ไก่กาอาราเล่เลย เราว่าแต่ละอย่างอร่อยๆทั้งนั้น อันแรกเป็น กุ้งและเห็ด กุ้งมีความเย็น เนื้อหวานนิดๆ รสชาติเบาๆ เหลืองๆนั่นเหมือนจะเป็นกลีบดอกไม้หรืออะไรสักอย่าง โดยรวมก็ประทับใจเมนูนี้เลย



อันต่อมาเนื้อย่าง roasted beef เนื้อนุ่มมาก มีวุ้นเยลลี่เค็มๆหอมๆเหมือนเอาน้ำซุปมาทำเป็นเยลลี่อ่ะ เมนูนี้ชอบมากเลย



ส่วนอีกเมนูเป็น ซุปผักข้น รสชาติดีมาก ไม่ต้องเติมอะไรเลย



สลัด เป็นผักร็อคเก็ตราดน้ำสลัดงา อันนี้ก็อร่อย



เชฟพรีเซนท์เนื้อแบบดิบให้ดูก่อน อันยาวๆคือเนื้อเซอลอยด์ ส่วนอันสั้นคือเทนเดอลอยด์



พอย่างเสร็จเชฟก็จะตัดแบ่งให้เป็นชิ้นๆเท่าๆกัน แบ่งให้ทุกคน

เนื้อวัวโกเบมีจุดเด่นคือ เนื้อมีความนุ่ม ไขมันแทรกเกรดสูง ฟองไขมันแทรกอยู่ในอณูของเนื้อแดง แทบจะละลายเมื่อเข้าปาก และเป็นไขมันชนิดที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ จะรสชาติดีเป็นพิเศษกว่าวัวชนิดอื่น



เราสามารถจิ้มได้ 3 อย่างคือเกลือพริกไทยและวาซาบิ



ลองชิมแล้วเนื้อนุ่มมากๆๆๆๆ แทบละลายในปาก เรียกว่าทริปนี้ฟินมากที่ได้มาลองเนื้อโกเบ



กินอิ่มท้องเรียบร้อย กะว่าจะไปถ่ายรูปช่วงทไวไลท์ที่ Kobe Port Tower กัน แต่ดันเดินไปไม่ทัน เลยได้ ภาพฟ้าดำๆมืดๆมาแทน

แผนที่ จุดถ่ายรูปชิงช้าสวรรค์ ห้าง Mosaic (ยืนฝั่ง Kobe Port Tower)
Map : https://goo.gl/maps/xY9t48cuUZo
พิกัด : 34.681615, 135.186936



จากนั้นก็เดินอ้อมมาอีกด้านนึงที่เป็นฝั่งห้าง Mosaic



แผนที่ จุดถ่ายรูป Kobe Port Tower (ยืนที่ฝั่งหน้าห้าง Mosaic)
Map : https://goo.gl/maps/Q4Sh831k97U2
พิกัด : 34.679996, 135.184989



จากนั้นก็ถ่ายรูปเล่นกันเถอะ



หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จเราก็เข้าไปเดินในห้าง Mosaic กัน ที่นี่มี Shop ของน่ารักๆเพียบเลย เราเดินเฉพาะ ชั้น 1 ไปเจอร้าน Kiddy Land ขายเจ้าหมีริลัคคุมะในรูปแบบต่างๆ ทั้งตุ๊กตาและของใช้ สำหรับพี่เก้าสอย ผ้าห่มไข่ขี้เกียจมา 1 ผืน เค้าชื่อว่า กูเด๊ะทะมะ น่ะเอง พอได้แล้วก็ห่มเลยไม่รอช้า เพราะอากาศมันหนาว วววว



เดินเล่นกันจนหนำใจ ก็นึกขึ้นได้ว่า เรายังไม่ได้ทานของหวานกันเลย แวะไปชิมเดนมาร์คชีสเค้กชื่อดังของ โกเบก่อนกลับโอซาก้าดีกว่า ร้านนี้คือร้าน Cannonya

แผนที่ ร้านชีสเค้ก Cannonya
Map : https://goo.gl/maps/5MAt9fiacQo
พิกัด : 34.679569, 135.184073
รายละเอียด : ร้านเปิด 11.00 - 22.00 มีหลายสาขา แต่สาขาที่เรามานี่คือ สาขาห้าง Mosaic

เป็นร้านชีสเค้กร้านดังอีกร้านนึงในโกเบ คนนิยมซื้อไปเป็นของฝาก เพราะโกเบจะโดดเด่นเรื่อง ชีสเค้ก, ทาร์ต, พุดดิ้ง



สำหรับร้านคันนนยะ ใช้ชีสที่นำเข้าจากเดนมาร์ก รสไม่หวานเกิน เนื้อชีสหอมนุ่ม คนเลยนิยมกันเมนู พระเอกคือ ชีสเค้กชิ้นกลมๆ ห่อหน้าด้วยชีสอุ่นๆ ชื่อ denmark cheesecak ชิ้นละ 350 เยน มันต้องอุ่น ก่อนกินอะนะ พอตักไปแล้วชีสเยิ้มมาก และมีเค้กนุ่มๆเบาๆอยู่ด้านล่าง ความหวานกำลังดี ทานคำรวมๆกัน แล้วฟินมากกกก ไม่มีความเลี่ยนเลยอ่ะ ถ้ามาโกเบยังไงก็อยากให้ลองแวะทานชีสเค้กร้านนี้ดูนะ

จบ Day 4 แล้ว กลับโอซาก้ากันก่อนหล่ะ แล้วตามมาเที่ยวกันต่อนะ Day 5 วันพรุ่งนี้นะ