Day 3 พุธ 18 พ.ย. 58: เกียวโต
แผนวันนี้คือ
เช้า : Arashiyama
บ่าย : วัด Kinkakuji(วัดทอง)
ค่ำ : ทานข้าวแถวโรงแรม + รับกระเป๋า > ไปโอซาก้า checkin โรงแรม Arietta Hotel Osaka
แผนที่ อาราชิยาม่า (Arashiyama)
พิกัด : 35.0189515,135.6812474
Map :
https://goo.gl/maps/3p7SYJGjKcB2
เดินทาง : ลง JR Saga Arashiyama
อาราชิยามา เป็นที่เที่ยวแนวธรรมชาติ เหมาะมากกับคนที่โหยหาธรรมชาติ สายลม และขุนเขาอยู่
ชานเมืองเกียวโต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีจากเกียวโต คนก็นิยมมาเที่ยวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่
จากสถานี JR Saga Arashiyama เราก็เดินมาตามแผนที่นี้
https://goo.gl/maps/xXcZMgrXTtk
เพื่อมุ่งหน้าไปที่สะพานโทเก็ตสึ ระหว่างทางเดินเราก็จะเจอร้านขายของ ขายขนม แต่งแบบสมัยโบราณแบบนี้ ทำให้เพลิดเพลินกะการเดิน
จุดหลักๆ ที่แวะมาถ่ายรูปคือ สะพานโทเก็ตสึ และทางเดินป่าไผ่ นอกจากนี้ก็มี กิจกรรมนั่งรถไฟสายโรแมนติค ซากาโน่
อันนั้นคือที่อ่านจากหนังสือมานะ แต่สิ่งที่พวกเราทำคือ แค่แวะมาถ่ายรูปตรงสะพานโทเก็ทสึ แล้วก็เดินกลับ เพราะฝนตกเทลงมาและเริ่มหนักขึ้นๆ และตกตลอดทริป แถมด้วยนักท่องเที่ยว
จำนวนมหาศาลพร้อมกองทัพร่มที่เบียดเสียดกัน ทำให้การเที่ยวของเราเป็นไปอย่างทุลักทุเลมากมาย
แต่สิ่งที่เราได้กลับมาเป็นของฝากคือ ภาพถ่ายเรือแจวที่อาราชิยาม่า ในบรรยากาศฝนๆ
อากาศตอนนั้นก็เย็นๆ ชื้นๆ แถมหมอกลงอีกตะหาก
ทีมงานก็ร่วมกันถ่ายภาพเป็นที่ระทึก หน้ายังใสกิ๊งกันทุกคนเลยแฮะ
สำหรับร้านอาหาร ก็ตั้งใจจะมากินข้าวหน้าปลาไหล Hirokawa แต่ด้วยความที่เป็นร้านยอดฮิต ไปถึงก็เห็นแถวยาวเหยียดออกมานอกร้าน ขืนต่อแถวมีหวังแพลนช่วงบ่ายน่าจะล้มกันเป็นโดมิโน่แน่ๆ เราเลยไปหา
ร้านที่คนน้อยๆนั่งทานซะเลย ร้านอยู่ชั้น 2 บนถนนซากะ อาราชิยามะ จากตรงนี้ก็เห็นวิวภูเขาด้วย สวยมากๆ
หลังจากเดินมาจนเหนื่อย แล้วได้มานั่งพัก มองวิวภูเขาแบบนี้มันก็รู้สึกสดชื่นไปอีกแบบนะ
กินอิ่มแล้วก็ขอไปช้อปหน่อยแล้วกัน พี่เก้ากับแม่ ร้องอยากจะไปช้อปของ Handmade ญี่ปุ่น ซึ่งร้านนี้มีที่
เกียวโต ชื่อว่าร้าน
Chirimen Zaikukan
แผนที่ ร้านขายของที่ทำจากผ้า Chirimen Zaikukan
เว็บไซต์ของร้าน :
http://www.chirimenzaikukan.com/
Map :
https://goo.gl/maps/Vo6HSyAjFbq
พิกัด : 35.015406, 135.677323
ร้านนี้อยู่บนถนน ซากะ อาราชิยามะ เป็นร้านที่พี่เก้าและแม่ผู้หลงใหลงานผ้าแฮนเม้ด อยากจะมา
ผ้าชิริเม็น เป็นผ้าทอญี่ปุ่นโดยใช้เทคนิคแบบโบราณที่สืบทอดกันมานานเป็นร้อยๆปี ลักษณะของผ้าเป็นผ้า
นิ่มๆย่นๆเขาก็เลยเอามาทำงานแฮนเม้ด เป็นกระเป๋าตังค์ กระเป๋าใส่เครื่องสำอางค์ กล่องแว่น ยันเครื่อง
ประดับต่างๆ
หรือทำเป็นตุ๊กตาสัตว์น่ารักๆ เช่น ตัวกัปปะ แมว นกฮูก เห็นแล้วอยากซื้อซะทุกสิ่งอย่างถ้าใครจิตไม่แข็ง
พออาจมีเหมากันหลายถุงเพราะเค้าขายแบบ 1 ตัวราคา 540 เยน ถ้า 3 ตัวราคา 1,300 เยนไรงี้ เล่นเอา
มือสั่นเพราะโดนแผนการตลาดเล่นงาน
แต่ถ้าใครไม่ได้มาอาราชิยามา ก็ไปซื้อที่เกียวโตได้ เค้ามีสาขาอยู่ที่กิอนด้วย
ออกเดินทางกันต่อนะ ช่วงบ่ายแพลนเราคือไปชม
วัดคินคะคุจิ หรือ วัดทอง (Kinkakuji)
แผนที่ วัดคินคะคุจิ
Map :
https://goo.gl/maps/DbcBZ7vhDbs
พิกัด : 35.039368, 135.729253
รายละเอียด : ค่าเข้า 400 เยน เปิด 9.00 - 17.00 น.
เป็นวัดดังระเบิดระเบ้อของเกียวโตอีกวัดนึง บางทีเราก็เรียกว่าวัด
ทอง ท่านโชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ ได้ซื้อต่อและทำเป็นที่พักของท่านเอง และตั้งชื่อปราสาทว่า
“คินคะคุจิ ”
ต่อมาเมื่อท่านโชกุนเสียชีวิต ก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็นวัดแบบเซน
จุดเด่นของวัดนี้ คือ อาคารสีทอง 3 ชั้น ตั้งอยู่กลางสระน้ำ และบนหลังคามีรูปปั้นนกฟีนิกซ์สีทองประทับ
อยู่บนยอดหลังคา และถ้าใครจำได้ ฉากนี้จะอยู่ในการ์ตูนเรื่อง
อิ๊กคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา ซึ่ง
เป็นที่พักของท่านโชกุนอาชิคางะที่ชอบเรียกอิ๊คคิว มาท้าประลองคำถามอยู่เรื่อย
กิจกรรมที่ทำที่วัดนี้ คือการเขียนขอพรบนแผ่นไม้รูป “อิคคิว” และซื้อเครื่องราง “อิคคิวซัง” ที่ร้านขายของ
ที่ระลึกของทางวัด เพราะเชื่อว่าจะทำให้สติปัญญาหลักแหลมเหมือนอิกคิวซังน่ะเอง
หลังจากเข้ามาในวัด เราก็ต้องตกตะลึงกับคลื่นมหาชนชาวกรุ๊ปทัวร์ และนักเรียนญี่ปุ่น ต่างเบียดกันเข้ามาดู
วัดปราสาททองกัน พวกเราต้องหลบทั้งคนและร่มที่จะมาทิ่มตา ทำให้สภาพการชมวัดเป็นไปอย่างทุลัก
ทุเลสุดๆ
สุดท้ายก็ลงความเห็นว่า มันไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ สถานที่สวยจริง แต่สภาพการเที่ยวแบบคนเยอะ
ขนาดนี้มันไม่ไหวเหมือนกัน เคยได้ยินแหละว่าคนเยอะ แต่ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดเน๊ ก็ถือว่าเป็นอีกที่นึงที่
ให้ประสบการณ์ที่จะเล่ากันไปอีกนานในกลุ่มพวกเราแน่นอน อ่ะ ให้ดูรูปเป็นหลักฐานเลย
จากวัดทอง เราก็จะไปรับกระเป๋ากันที่โรงแรม และพุ่งตัวเข้าโอซาก้ากันในคืนนี้เลย ก่อนไปรับกระเป๋าก็ขอ
แวะไปจัดอาหารเย็นให้มีแรงยกกระเป๋ากันก่อน อาหารเราวันนี้ง่ายๆ คือร้าน Coco Curry แถวๆโรงแรมนั่น
แหละ
แผนที่ร้าน Coco Curry (ใกล้ซากุระ เทอร์เรส)
Map :
https://goo.gl/maps/BkH2fVPCJd72
พิกัด : 34.9819417,135.7586035
จริงๆพวกเราได้กินกันตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่ไม่ได้ถ่ายรีวิวเอาไว้ วันนี้มากินอีกรอบเลยถ่ายไว้ซะหน่อยแล้วกัน เผื่อแฟนๆแกงกะหรี่จะมาลองบ้าง
หลังจากกินมา 2 ครั้ง รู้สึกได้ถึงความแตกต่างจากที่ไทย เราว่าคุณภาพเนื้อและข้าวมันดีกว่านะ แถมรสชาติยังเข้มข้น
กว่าด้วย
พวกเราก็เป็นแฟนๆ Coco Curry และกินบ่อยมากที่ไทย แต่พอได้มากินที่เกียวโต รู้สึกว่ามัน
เป็นแกงกะหรี่ที่ถูกอัพเกรดเป็นซุปเปอร์ไซย่าแกงกะหรี่อะไรทำนองนั้นเลยอ่ะ
เมนูนี้ของพี่ฉิม เป็นเนื้อตุ๋น กับแฮมเบิร์ก เนื้อนุ่มมากกกก รสแกงกะหรี่เข้มข้น กินจานนี้เข้าไปน่าจะมีแรง
พอยกกระเป๋าได้อีก 10 ใบ
เข้าโอซาก้า รับกระเป๋าเรียบร้อย เราก็ขึ้น JR จาก Kyoto Station ไปลงที่ Osaka Station ซึ่งเกิดความผิด
พลาดในการขึ้น JR ตอนแรกว่าจะขึ้น JR Tokaido Sanyo Line แต่จุดที่เราขึ้นกลับเป็น JR Kyoto Line แทน
ซึ่งมันจอดหลายสถานีมาก กว่าจะมาถึง Osaka Station
จาก Osaka Station เราขึ้น Midosuji Line สายสีแดง มาลงที่ Hommachi Station แล้วเดินไปอีกนิดนึงก็
ถึงโรงแรม
Arietta Hotel Osaka ที่ๆเราจะฝากชีวิตไว้ทั้งหมด 8 คืนที่เหลือในญี่ปุ่นนี่แหละ
ที่พักที่ โอซาก้า 8 คืน
โรงแรม
Arietta Hotel Osaka อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Hommachi Station (ฮอบมาจิ) ออก
Exist 1 เป็นโรงแรมในโอซาก้า ที่เราจะพักยาวไปจนจบทริป รวมทั้งหมด 8 คืน (เดินตามแผนที่นี้นะ
https://goo.gl/maps/aJ4W4bSSrAq)
จากสถานี Hommachi เดินไปนิดเดียวก็ถึงโรงแรม และระหว่างทางเดินจะผ่าน Minimart ด้วย เราก็จะแวะซื้อน้ำดื่ม ขนมไปกินบนห้องบ้าง และได้ฝากมื้อเช้าไว้ที่นี่ด้วย
แผนที่ Arietta Hotel Osaka (อะริเอทตะ โฮเทล)
Map :
https://goo.gl/maps/X4LratxZsKp
พิกัด : 34.6843891,135.5028719
ค่าห้องพักคืนละ 2,700 บาทต่อคืนจากที่นี่ ถ้าจะไปนัมบะก็นั่งไป 2 สถานี ผ่านสถานี shinsaibashi และ
สถานีถัดไปก็ Namba เรียกว่าก็ไม่ไกลจากย่านของกินช้อปเท่าไหร่ ถือว่าโอเคมาก
ขึ้นไปดูห้องพักกันดีกว่า ห้องจะแคบกว่าที่ Sakura Terrace หน่อยนึง ก็พอเดินสวนกันได้ ห้องถือว่าใหม่
ใช้ได้นะ มี Facility ครบ และมี Free wifi ให้ด้วยนะจ้ะ
แต่สิ่งที่ตกใจมากคือ ห้องน้ำกว้างมาก ปกติห้องน้ำในโรงแรมญี่ปุ่นจะแคบแค่ประมาณหมุนตัวได้ แต่อันนี้
กว้างเว่อ
ตอนเช้าโรงแรมเค้ามีบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าให้เราด้วยนะ เป็นสลัด ครัวซองค์ โยเกิร์ต กล้วยหอม ซึ่งสิ่งที่ดีงาม
สุดๆคือขนมปังชา และครัวซอง ถือว่าทำได้อร่อยเลยแหละ ไม่ใช่แค่วางๆพอให้มันมีๆไปแบบนั้นนะ เรารู้สึก
ว่าโรงแรมนี้คุ้มราคามาก
สำหรับ Day 3 ก็จบแค่นี้ ขอไปนอนก่อน ตื่นมา Day 4 เราจะเริ่มเที่ยวกันต่อจ้า