ถ่าย RAW ดี หรือ JPG ดี แตกต่างกันตรงไหน

ถ่าย RAW ดี หรือ JPG ดี แตกต่างกันตรงไหน

จากที่สัญญาไว้ในวีดีโอว่า จะมาพูดเรื่องการถ่ายภาพแบบ Raw กับ JPG ว่า มันต่างกันยังไง และใช้เมื่อไร งั้นก็มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า

การภาพถ่ายแบบ Raw คือการที่เราบอกกล้องว่า เวลาถ่ายภาพเสร็จแล้วให้เอาภาพออกมาเลย ไม่ต้องจัดการเพิ่มสีแสงอะไรมาให้นะ เอามาทั้งอย่างงั้นเลยนะจ๊ะ

อีกแบบคือการถ่ายภาพแบบ JPG คือการที่เราบอกให้กล้อง Set ค่าสีออกมาให้เราเลย เพราะกล้องคำนวณให้แล้วว่าสีแบบนี้กำลังดี และค่าสีเหล่านี้ จะแล้วแต่ยี่ห้อของกล้องด้วยว่าจะออกมาเป็นแบบไหน

RAW JPG ต่างกันอย่างไร ถ่ายอะไรดี กล้องดิจิตอล เทคนิค ถ่ายรูป สอนถ่ายภาพ

ถ้าเทียบคงเหมือนกับอาหาร การถ่ายแบบ Raw คือการที่เราบอกล้องว่า เอาเนื้อดิบออกมาซิ ชั้นจะเอามาทำอาหาร ปรุงรสเอง ส่วนการถ่ายแบบ JPG คือการที่เราบอกกล้องว่า เอาเนื้อที่ปรุงสุก และปรุงรสเสร็จแล้วมาซิ ชั้นจะเอาไปกินกะเพื่อนเลย ..... แบบนี้พอเข้าใจเน๊าะ

ทีนี้ เรามาดู ข้อดี-ข้อเสีย ของ Raw กับ JPG ดีกว่าค่ะ

Raw
ข้อดี : นำไปปรับ White Balance ใน Photoshop หรือ Lightroom ได้ค่อนข้างแม่นยำ แค่จิ้มเข้าไปที่สีขาว ก็จะได้ White Balance ที่ถูกต้องเลย
ข้อเสีย : ไฟล์ใหญ่มาก 17-22 MB
ข้อเสีย : ถ่ายออกมาแล้วสีซีด เพราะว่ากล้องไม่ได้ Set อะไรให้เราเลย เพราะเราจะ Set เองใน Photoshop หรือ Lightroom ไง ดังนั้นถ้าเลือกถ่าย Raw ก็ต้องเอามาปรับสีใน Photoshop หรือ Lightroom อยู่ดีค่ะ

JPG
ข้อดี : ไฟล์ไม่ใหญ่เท่าไร 1.5-6 MB (ต่างกันเยอะเหมือนกัน)
ข้อดี : ถ่ายออกมาแล้วสีสันสดใส นำไปใช้ได้เลย เอาไปส่งให้เพื่อนๆ ดูได้เลย ไม่ต้อง Set อะไรเพิ่มแล้ว เพราะกล้องมัน Set ค่าให้
ข้อเสีย : การเอาไฟล์ JPG ไปปรับ White Balance ใน Photoshop อีกอาจทำให้ไฟล์ช้ำได้

ดูๆ แล้วอาจจะเห็นว่า นี่ง่ะ Raw ข้อเสียเยอะกว่าเห็นๆ แบบนี้เราเลือกถ่ายแบบ JPG ไม่ดีกว่าหรอ?

ในความเห็นเรา และจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ข้อดีของ Raw มันมีน้ำหนักเยอะกว่าข้อเสีย 2 ข้อนั้นของ Raw คือ จะเรียกว่า เรายอมแลกเพื่อให้ได้ข้อดีของ Raw มากกว่าค่ะ

แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนมากกว่า ว่าถนัดทางไหน บางคนใช้ Photoshop หรือ Lightroom ไม่เป็น หรือถ่ายภาพมาแล้วขี้เกียจมานั่งปรับภาพอีก ก็ถ่ายแบบ JPG ก็น่าจะดีกว่า ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสถานการณ์ และความสามารถในการ Set White Balance ด้วยค่ะ

มาดูตัวอย่างภาพกันดีกว่า ภาพนี้เป็นการถ่ายแบบ Raw แล้วมาปรับสีใน Photoshop (ศัพท์ในวงการเค้าเรียกว่า Process สี)

สำหรับภาพนี้ เป็นการถ่ายแบบ Raw แล้วนำมาปรับ White Balance ใน Photoshop

ปรับโดยใช้ White Balance Tool แล้วจิ้มลงไปตรงสีขาวในภาพ แค่นี้ก็จะได้ White Balance ที่ถูกต้องค่ะ

แล้วเราจะใช้ Raw เมื่อไร ใช้ JPG เมื่อไร?

ถ้าเราอยู่ในสถานที่สภาพ แสงไม่ซับซ้อน อยู่ในที่ๆ เป็นแสงเดียว เช่น เราอยู่ในร้านอาหารที่เป็นแสงไฟเหลือง (จากหลอด Tungsten) อย่างเดียว หรืออยู่ในแสงธรรมชาติอย่างเดียว ก็ถ่าย JPG ไป เพียงแต่ต้องตั้ง White Balance ให้ถูกต้องก่อนถ่ายภาพเท่านั้นเอง ก็จะได้ภาพออกมาใช้ได้เลย

แต่ถ้าเราอยู่ในสภาพที่ แสงซับซ้อน เช่น ในร้านอาหารที่ใช้หลอดไฟ Tungsten (แสงเหลือง) ตรงโต๊ะติดหน้าต่าง แบบนี้ จะได้แสงเหลืองบ้าง แสงธรรมชาติบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้ควรจะถ่ายแบบ Raw เพราะเราจะได้นำภาพไปปรับ White Balance ที่ถูกต้องได้ในภายหลัง

ความยากลำบากของการถ่ายแบบ JPG ในสภาพแสงซับซ้อนมันจะเป็นแบบนี้ค่ะ
ยกตัวอย่างในร้านอาหารเดิม บริเวณหน้าต่างมุมเดิม แสงที่ได้คือ แสงจากหลอดไฟบ้างแสงจากธรรมชาติบ้าง หันไปทางหลอดไฟ ก็ต้อง Set White Balance อย่างนึง หันไปทางแสงธรรมชาติ ก็ต้อง Set White Balance อีกอย่างนึง มันช่างมึนงงจริงๆ ลองนึกดูค่ะ หันไป หันมา ปรับไป ปรับมา ไหนจะต้องจัดองค์ประกอบภาพ ดู Speed Shutter อีก มีการลืมปรับ White Balance แน่นอน แล้วจะได้ภาพออกมาเสียใจทีหลัง อุตส่าห์ไปเที่ยวทั้งที

ดังนั้น ถ้าสภาพแสงซับซ้อน ก็ขอให้ซัดโฮก Raw ไปเลยดีกว่าค่ะ

สำหรับทีม iLove จะใช้วิธีการถ่ายแบบ Raw เสมอเลยค่ะ เพราะว่า พวกเรามีเวลาน้อยเวลาไปถ่ายรีวิว จะมานั่งปรับ White Balance กันอีกคงไม่ทัน บางโรงแรม หรือบางร้านอาหาร หน้าต่างใหญ่มาก พอลึกเข้าไปในร้านหน่อย ก็มืดเหลือแต่ไฟแบบ Tungsten ก็อาจจะลืมปรับ White Balance ได้ค่ะ

และโดยเฉพาะการรีวิวอาหาร ภาพอาหาร เราต้องถ่ายออกมาให้ได้สีของอาหารที่ถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราต้องสื่อสีจริงของอาหารให้ได้มากที่สุด เพื่อที่ว่า ผู้ที่อ่านรีวิวจะได้เห็นภาพชัดเจนและเข้าใจได้ถูกต้อง ว่า Experience ของพวกเราคืออะไรค่ะ

และอีกอย่างหนึ่งที่ขอเสริม คือเวลาที่เราไปถ่ายภาพรีวิว บางทีความไม่แม่นยำในวัดแสง หรือชดเชยแสง ของตากล้อง ทำให้ภาพที่ได้มืดไปบ้าง สว่างไปบ้าง ถ้าถ่ายแบบ Raw โปรแกรม Photoshop ช่วยได้ค่ะ สามารถกู้คืนแสงเสียเหล่านั้นได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมทีม iLove ถึงเลือกใช้การถ่ายแบบ Raw ค่ะ

วิธีเปลี่ยน RAW - JPG ทำที่นี่ค่ะ (ของ Canon)