เที่ยวพัทยา 1 วัน (บ้านกลับหัว-สวิสชีพฟาร์ม)
ใครที่ไปพัทยาแล้ว เบื่อๆทะเล อยากมีรูปแปลกๆเกร๋ๆ ลองมาเที่ยวที่บ้านกลับหัว และสวิสชีพฟาร์มดู ทั้ง 2 ที่อยู่ใกล้กันมาก สามารถเที่ยวได้ใน 1 วัน แต่ถ้าอยากเพิ่มอีกที่นึงก็เลยไปไร่องุ่นซิลเวอร์เลคต่อได้เพราะอยู่โซนเดียวกันนี่แหละ ภาพในทริปนี้มาจากคลิปที่รีวิว DJI Osmo Mobile ถ้าใครอยากติดตามแบบเป็นคลิปแบบตัวเป็นๆ ก็เข้าไปดูได้ใน Link นี้นะจ้ะ
http://www.youtube.com/watch?v=-ZX0jPZC1iA&t=10m22s
พัทยาไม่ได้มีแต่ทะเลอย่างเดียว ที่ถ่ายรูปสวยๆก็มี วันนี้เราจะพาไปเที่ยวบ้านกลับหัวช่วงเช้า และบ่ายไปสวิสชีพฟาร์มกัน ทั้ง 2 ที่นี่อยู่ใกล้ๆกันเลย
ผู้ร่วมคณะทัวร์เบอร์ 1 พี่เก้า.. เป็นผู้ชื่นชอบเฟรนฟรายมากๆ ไม่ยอมปล่อยถุงเฟรนฟรายเลยดูสิ
ผู้ร่วมคณะทัวร์เบอร์ 2 พี่ฉิม.. ชื่นชอบเบอร์เกอร์คิงม๊ากกก
ผู้ร่วมคณะทัวร์เบอร์ 3 แม่ และเบอร์ 4 พี่เบญ พวกเราต้องเติมพลังด้วยเบอร์เกอร์กันก่อน
มาถึงแล้ว ที่นี่คือ บ้านกลับหัว หรือ Upside Down Pattaya
Map : https://goo.gl/maps/9Htg736Ytd72
มาถึง พี่ฉิมก็จัดเครื่องเล่นแบบหมุนๆ หลังจากที่กินเบอร์เกอร์มา.. พี่ฉิมบอกสู้ตาย
เป็นเครื่องที่หมุนด้วยแรงของพี่ที่อยู่ข้างหลัง หมุนเรยยย ยักฮู๊...
แม่ของเราก็เล่นนะ แต่เค้าหมุนให้ช้าๆ
ตรงนี้คือบ่อน้ำวิเศษ
อธิษฐานแล้วโยนเหรียญ จะทำให้สิ่งที่ขอเป็นจริง พี่ฉิมก็จัดเลย ไม่รู้ว่าพี่แกขออะไรไปแฮะ
ไปปราสาทข้างๆต่อ
ไม่มีอะไรมาก ก็เป็นบันไดวนๆขึ้นไป ไปถ่ายรูปข้างบน แต่เวลานี้ร้อนมากกกก ทุกคนตาหยีไปหมด
ลงมาถ่ายข้างล่างดีกว่า ดูหน้าตาปกติกว่าเยอะ ข้างล่างก็มีชุดเกราะอัศวินให้เราถ่ายรูปเล่นกัน
เสร็จแล้วไปต่อกันที่ Highlight ของที่นี่กัน
ตรงนี้คือบ้านกลับหัว ดูเล็กๆเนอะ มี 2 ชั้น แต่ว่ามีมุมให้เราถ่ายรูปเยอะกว่าที่เห็นด้านนอก
ถ่ายรูปกับบ้านกันก่อน
แอ๊คท่ากันไปหลายๆแบบ
เข้าไปข้างในกันได้แล้ววว
เข้าไปแล้ว เงยหน้าขึ้นไป จะเห็นของทุกอย่างอยู่บนเพดาน อันนี้เป็นรถยนต์
เวลาถ่ายรูป เราก็ถ่ายไปตามปกติ แต่พอเข้า Lightroom ก็ไปกลับรูปเอาให้เป็นแบบนี้ วิธีการคือ เปิดด้วย LR แล้วคลิกขวาที่ภาพ
เลือก Transform > Flip Vertical ก็จะออกมาเป็นภาพ Final แบบนี้
ภาพ Original เราใส่ไว้ให้ในเม้นด้านล่างนะ
ยิ่งถ่ายกันหลายๆคน ยิ่งสนุก
มีหลายๆห้อง อันนี้ห้องกินข้าว
มาที่นี่ควรพกเลนส์ Wide หรือ Ultra wide มาจะได้รูปเด็ดๆเยอะเลย แต่ถ้าไม่มีก็พวก kit ก็ได้นะ
เทคนิคก็คือ ให้ถ่ายเหลือที่เพดานด้านบนเยอะๆหน่อย เวลากลับหัวภาพ ก็จะเห็นเป็นแบบนี้
อีกเทคนิคคือ ให้มีระยะหน้ากะหลัง ภาพมันก็จะดูมีมิติมากขึ้น
ถ่ายกันจนหนำใจ ก็ออกมาข้างนอกกันดีกว่า
แถมยังมีเขาวงกตให้เล่นด้วย เราก็ไปเล่น แต่มันร้อนมากๆๆๆๆเลย
ในที่สุดก็พิชิตเขาวงกตจนได้ ได้เวลาไปจุดหมายต่อไปแล้ว
ขับรถมานิดเดียวก็มาถึง สวิสชีพฟาร์ม
Map : https://goo.gl/maps/YHdQC7cK6mG2
เราก็เข้าไปซื้อตั๋วที่นี่ และเค้าจะให้บัตรเอาไว้แลกหญ้ามาด้วย
หญ้าที่เค้าให้เนี่ย เอาไว้ให้แกะกินนะ อย่าเอาไปกินกันเอง ถ้าหิว ้ด้านนอกเค้าก็มีร้านอาหารอยู่นะจ้ะ
ทางเข้าๆ
เข้ามาถึงก็เจอแกะเลย ยืนร้องแบ๊ะๆ
ภายใจฟาร์ม ดูยุโรปคันทรี่มากๆ
แต่จะสังเกตว่า ไม่มีมนุษย์อยู่เลย ใช่สิ เพราะเรามากันวันธรรมดา มันเลยไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเท่าไหร่
ถ้าจะมาให้หญ้าแกะ ก็ตรงเข้าไปตรงนี้เลย
พอดีช่วงนั้นเป็นช่วงฮัลโลวีนพอดี เค้าเลยจัดธีมเป็นผีๆแบบนี้
มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะมาก
นี่พินอคคิโอ้ ตัวใหญ่มาก
เดินลึกเข้ามา ตรงนี้เป็นตึกแนวยุโรป
มีร้านค้าต่างๆ แต่เค้าไม่เปิดกันเลย อาจจะเป็นเพราะวันธรรมดาไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว
ตรงกลางมีลานน้ำพุ
ได้เวลาหาอะไรใส่ท้องกันแล้ว ออกมาด้านนอกฟาร์มจะมีร้านอาหาร
สั่งอาหารเซ่ะ
ระหว่างรออาหาร ให้ดูบรรยากาศร้าน ตกแต่งแนวคันทรี่ ดูอบอุ่น
สิ่งที่เราสั่งไปมาแล้ว มีพาสต้าคาโบนาร่า
ไข่เจียว ต้มยำกุ้ง
พอร์คช้อป
สเต็คปลา อันนี้อร่อยเทพมาก เห็นหน้าตามันจืดๆแต่เนื้อปลานุ่มมาก
กาแฟตบท้าย อร่อยเหมือนกัน ที่สั่งไปเป็นมอคค่า
กินอิ่มแล้ว ก็ไปถ่ายรูปกันต่อ
หัวกลมของแม่
รูปคู่ๆ
เข้ามาเที่ยวในฟาร์มต่อ พี่ฉิมติดใจคุณลาตัวนี้มาก
ส่วนพี่เก้า ก็คุยกับแกะ
พี่ฉิมก็เอามั่ง
พี่เบญรู้สึกชอบคุณม้าเป็นพิเศษ มันหัวใหญ่ๆ ตาโตๆ ดูน่ารักมาก ไม่เคยลูบหัวม้าใกล้ๆแบบนี้มาก่อน
มีส่วนแกะอนุบาลด้วยนะ น่ารักม๊ากกกก
ไปถ่ายรูปต่อ...
โพสท่ากันแบบมืออาชีพเชียว
มาถึงแรบบิทเฮ้าส์ หรือ บ้านกาต่าย
ก็ต้องมีกระต่ายสิ
เราก็ถ่ายรูปเล่นกันไปเรื่อยๆ ดูกันไปเพลินๆนะ
มุมถ่ายรูปที่นี่เยอะมาก ที่ถ่ายมาก็แค่ส่วนนึงเท่านั้นเอง
เย็นแล้ว ฟาร์มใกล้ปิด พนักงานก็ต้อนแกะอนุบาลกลับคอก
พี่ฉิม ร่ำลาคุณลา ไว้จะกลับมาหาใหม่น๊าาา
เป็นอีกที่ที่เราประทับใจมาก สนุกและได้ใกล้ชิดกับสัตว์น่ารักๆ
แกะหมดเวลางานแล้ว ได้เวลาพักผ่อน
อีกตัวที่ก่อนกลับ เราได้เจอ ก็คือฝูงอัลปาก้า
จริงๆเค้ามีส่วนให้อาหารอัลปาก้าแหละ แต่เราไม่ได้แวะ พอตอนเย็นๆเค้าก็ปล่อยอัลปาก้าให้ออกมาวิ่งเล่น เราเลยได้ถ่ายรูปด้วยนิดหน่อย
จบแล้วทริปพัทยา 1 วัน เผื่อเป็นทางเลือกให้ใครที่ชอบถ่ายรูปก็แวะมา