รีวิวท่องเที่ยว

เที่ยวโตเกียว หน้าหนาว วันที่ 7


ทริปนี้ไปโตเกียวตอน 13 - 21 ธ.ค. 59 เข้าสู่การเที่ยวโตเกียววันที่ 7 แพลนวันนี้พาไปเที่ยว Namja Town ที่ห้าง Sunshine city ย่านอิเคะบุคุโระกัน ตบท้ายด้วยชิมแกงกะหรี่ ร้าน Go Go Curry ติดตามทริปแบบเต็มๆ แบบภาพเคลื่อนไหวได้ที่นี่นะจ้ะ https://www.youtube.com/watch?v=dyLS4VUx2iU

เริ่มต้นเที่ยวโตเกียว Day 7 กันเลยยยย




วันนี้พามาที่ Namja Town เป็นสวนสนุกที่ตกแต่งเป็นโซนต่างๆ อยู่ในห้าง Sunshine City เราก็มาลงที่สถานีอิเคะบุคุโระ
พิกัด : 35.7288895,139.7194056




นัมจะทาวน์ อยู่ชั้น 2 ของห้าง Sunshine ซื้อตั๋วเข้าจากข้างหน้าได้เลย ถ้าตั๋วแบบเบสิค เข้าได้อย่างเดียวราคา 500 เยน แต่ถ้าอยากเข้าไปเล่นเกมมันก็มีตั๋วเหมาเข้าไปเล่นเกมได้ทั้งหมด




แต่สำหรับเราไม่เน้นเล่นเกม เข้าไปเอาบรรยากาศ ไปถ่ายรูป กะหาของกินอร่อยๆดีกว่า




เข้ามาด้านใน จะแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ โซนบ้านผีสิง (อยู่ซ้ายมือสุด) แต่งเป็นธีมผีโบราณ ข้างในมีเกมผีๆให้เล่น, โซนด๊อกกิ้งแฮม พลาซ่า (ตรงกลาง) แต่งแบบแนวเทพนิยาย และสุดท้ายโซนย้อนยุค (ขวาสุด) จำลองบ้านเรือนญี่ปุ่นยุค 1955




เริ่มโซนแรกก่อนเลย ก็คือโซนย้อนยุค จะมีเกี๊ยวซ่าสเตเดี้ยมอยู่




สังเกตง่ายๆได้จาก หน้าทางเข้ามีซุ้มประตูโทริอิสีแดงๆแบบนี้อยู่




ด้านในตกแต่งเป็นธีมญี่ปุ่นสมัยโบราณ




ที่นี่จะรวมร้านเกี๊ยวซ่าอร่อยเด็ด 8 ร้านทั่วญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ แต่ละร้านจะมีสไตล์ของตัวเอง




สถานที่มันไม่ได้ใหญ่มากหรอก แต่ละร้านก็จะเป็นร้านเล็กๆ เรียงติดๆกัน มีที่นั่งกินหน้าร้านนั่งได้ประมาณ 3-4 คนเท่านั้น




ก็จิ้มเลือกกันเลยว่าจะเอาร้านไหนก่อน




เค้าจะมีแผนที่บอกด้วยว่าร้านนี้ชื่ออะไร มีเกี๊ยวซ่าสไตล์อะไร




ถ้าใครไปกินแบบเราให้เทียบเบอร์ร้านจากแผนที่ที่เค้าแจกได้เลยนะ




ร้านแรกพี่เก้าก็เลือกร้านแรกเบอร์ 4 เป็นเกี๊ยวซ่าเนื้อ




เค้าจะเสิร์ฟให้เป็นกล่องกระดาษแบบนี้ มีตะเกียบ น้ำจิ้ม พร้อม เราก็หาที่นั่งที่หน้าร้านก็ได้ หรือจะเดินมาทานตรง area โต๊ะก็ได้นะ




มาแล้วของร้านเบอร์ 4 เราเลือกแบบ 1 กล่องมี 4 ชิ้น เป็นไส้เนื้อ แผ่นแป้งหนานิดนึง เหนียวนุ่ม แต่ไม่ได้รู้สึกถึงรสเนื้อมากนัก




ส่วนร้านนี้คือร้านเบอร์ 8 เป็นเกี๊ยวซ่าราดชีส มี 6 ชิ้น เป็นร้านเกี๊ยวซ่าเก่าแก่เปิดเมื่อปี 1962 เคยเป็นแผงขายเกี๊ยวซ่าหน้าสถานีฮากาตะ เกี๊ยวซ่ากลิ่นชีสแรงมาก พอชีสแห้งก็มีความกรอบนิดๆ แป้งเกี๊ยวซ่ามีความกรอบ ได้ความเค็มมันของชีสไปด้วย แนะนำว่าอย่าพลาดร้านนี้




ร้านนี้ของเบอร์ 2 เป็นเกี๊ยวซ่าทอดกรอบแบบราดซ้อส




เป็นไส้เกี๊ยวซ่ากรอบๆ ที่น้ำจิ้มไม่ได้เปรี้ยว มีความกรอบกร้วม




ถือว่าเป็นร้านเกี๊ยวซ่าอีกแนวนึง แต่ตอนนี้ก็ยังชอบร้านเบอร์ 8 ที่เป็นชีสอยู่




ร้านนี้เป็นร้านเกี๊ยวซ่าแบบซาลาเปา เป็นร้านเบอร์ 3




เป็นไส้รสชาติกลมกล่อมกำลังดี แป้งกรอบนอกนุ่มใน ทานกับน้ำจิ้มอร่อยกว่า สรุปอันนี้อร่อยรองจากร้านชีส




ร้านนี้คือร้านเบอร์ 1 เป็นเกี๊ยวซ่าจากฮอคไกโด เราไม่ได้เก็บภาพเกี๊ยวซ่ามา แต่โดยสรุปก็อร่อยดีแต่ยังไม่เท่าร้านเกี๊ยวซ่าชีสอยู่ดี




ร้านนี้เป็นร้านเบอร์ 5 เป็นเกี๊ยวซ่าสไตล์จีน




เป็นเกี๊ยวซ่าทอดกรอบเป็นแผ่นๆ แปลกดีอ่ะ




หน้าตาออกมาเหมือนไข่เจียวชะมัด มีชีสด้วยนะ ได้ความเค็มของชีส มีความเกรียมนิดๆ ไส้เยอะกำลังดี




ส่วนร้านนี้ คือ ร้านเบอร์ 7 เป็นเกี๊ยวซ่าแบบ set




ร้านนี้มาจากไชน่าทาวน์ของ 3 เมืองคือ โยโกฮาม่า นางาซากิ และโกเบ




ซื้อ set เดียว เหมือนได้ชิมเกี๊ยวซ่าของทั้ง 3 เมือง ช่างคุ้มจิงๆ เรียงจากซ้ายไปขวา
เริ่มจากโยโกฮาม่า เป็นเกี๊ยวซ่าที่มีน้ำซุปข้างใน
อันที่ 2 จากนางาซากิ เป็นเกี๊ยวซ่าแบบนึงนุ่มๆ มีน้ำซุปเยอะกว่าอันแรก
อันที่ 3 จากโกเบ กลิ่นน้ำจิ้มมีงา แป้งหนากว่าคนอื่น แต่มีความเด่นตรงน้ำจิ้มอร่อย หอม




กินไปกินมาร้านละนิดละหน่อยก็อิ่มได้แฮะ




สรุปว่า พี่เก้าชอบร้านเบอร์ 8 กับเบอร์ 7 แนะนำว่าถ้ามาแล้วให้มาลอง




เราก็เหมือนได้ชิมเกี๊ยวซ่าอร่อยๆ ในบรรยากาศญี่ปุ่นโบราณ




เราว่ามันก็สนุกดีนะ ยิ่งคนชอบทานเกี๊ยวซ่าก็อยากให้มาลอง มันมีเกี๊ยวซ่าหลายสไตล์มาก




ตอนก่อนจะออกไปโซนต่อไป ก็มีแมวนัมจะมาทักทาย เราก็ถ่ายรูปคู่ซะหน่อย




คราวนี้เราไปโซนต่อไปกัน จะเป็นโซนบ้านผีสิง




ถ้าดูจากแผนที่มันจะอยู่ด้านซ้ายสุดของพาร์ค




เข้าไปข้างใน จะแต่งแบบธีมผีญี่ปุ่นโบราณๆ เออ มันก็ได้บรรยากาศหลอนๆดีนะ




แต่มันก็ไม่น่ากลัวมาก เราว่าพวกเราดูหน้าตาน่ากลัวกว่า




คุณยายคนนี้ทำโอโคโนมิยากิให้ทาน แต่หน้าตาแกดูไม่ค่อยรับแขกเท่าไหร่แฮะ




มันก็จะเป็นกึ่งๆให้กดปุ่ม แล้วก็มีผีโผล่ออกมาให้ตกใจเล่นอะไรแบบนี้ ฮาๆขำๆปนบรรยากาศหลอนๆมากกว่า ไม่ได้ทำให้พี่เก้ากลัวแต่อย่างใด ให้มันรู้ซะบ้างว่านี่รุ่นไหน




ในนี้พากย์ญี่ปุ่นหมด มันก็ไม่ได้มีอะไรให้ดูเยอะนัก เหมือนมาเดินเล่นขำๆมากกว่า




ทางออก มีเก้าอี้ผีให้นั่งด้วย พี่เก้าก็ไล่พี่ฉิมไปลองนั่งสิคุณ แล้วก็รอดูว่าจะมีอะไรออกมาหลอก ปรากฎว่าไม่มีอะไรแฮะ




โดยสรุป เราว่านัมจะทาวน์มันก็เหมือนมาเดินเล่นขำๆ มันไม่ได้เป็นพาร์คที่ใหญ่อลังวังเว่ออะไรมากมาย ส่วนที่เราประทับใจคือเกี๊ยวซ่าสเตเดี้ยม ต่อมาเราก็กะว่าจะไปอวาเรี่ยมที่ซันไชน์ซิตี้ แต่มาคำนวณตังในกระเป๋า คิดว่าน่าจะไม่พอไปถึงวันสุดท้ายแหงๆ เราเลยพาไปเดินเล่นชั้นใต้ดินของห้าง เป็นที่ขายของแฟชั่น และพวก shop จิบุลิ




พอช่วงเย็น เราก็ออกจากซันไชน์ซิตี้ มาเดินบนถนน Sunshine 60
พิกัด : 35.730245, 139.716606




เป็นถนนช้อปปิ้งเดินเล่น จาก sunshine city เดินเป็นเส้นยาวๆไป ไปจบที่สถานี JR อิเคะบุคุโระ




มีโรงหนัง ร้านขายเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า




มี shop ขายของจุ๊กจิ๊กด้วย




หิวแล้ว วันนี้มื้อเย็นขอฝากท้องไว้กับร้านแกงกะหรี่ Gogo Curry ละกัน หาไม่ยากสังเกตจากร้านทาสีเหลืองอ๋อยและมีโลโก้เป็นลิงกอริลล่า
พิกัด : 35.7289099,139.7123755




ร้านนี้มีเลข 5 เป็นเลขประจำร้าน ที่มาของชื่อร้านก็มาจาก ตัวเลข 5 ในภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า โกะ ทางร้านจึงใช้คอนเซปต์นี้มาตั้งชื่อร้านและเป็นธีมของร้าน




ทั้งวันเกิดของร้านวันที่ 5 เดือน 1 หรือเวลาเปิด-ปิด จะลงท้ายด้วย 55 นาที




เมนูที่ต้องสั่งที่นี่คือ คัทซึคาเร ก็คือแกงกะหรี่หมูทอดน่ะเอง เค้าจะมีทั้งหมด 4 ไซส์ เรียงจากเล็กไปใหญ่ ที่เราสั่งนี่คือไซส์เล็กสุด




อันนี้ไชเท้าทอง คือให้เติมแบบไม่อั้น กล่องใหญ่มาก ให้มาเหมือนประชด




สรุปว่า น้ำแกงกะหรี่เข้มข้นมากกกกก เราชอบมากเลย




ร้าน GoGo Curry เป็นร้านแกงกะหรี่ Franshine จะมีตามย่านต่างๆในโตเกียว หากินได้ง่ายมาก ใครอยากลอง ให้ search ใน google map เลยก็ได้ มันจะขึ้นมาให้เลย




แถมเค้ายังมีให้ซื้อกลับไปทำกินที่บ้านด้วยนะ เป็นน้ำแกงกะหรี่ที่แพคใส่ซอง




พี่ฉิมจัดมา 2 กล่อง กะว่าถ้าทำไม่ได้จิงๆ จะให้คุณเห็ดมาทำให้ทาน สำหรับวันนี้ก็ปิด Day 7 ละจ้า ติดตามกันใหม่ได้ Day 8 เป็นวันสุดท้ายละเน้อ